กฟน.มอบเงินช่วยเหลือเหยื่อไฟไหม้สำเพ็ง เร่งประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหา
29 มิ.ย. 2565, 16:24
จากเหตุเพลิงไหม้บริเวณสำเพ็ง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบ และได้นำข้อสั่งการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเยียวยา ดูแลผู้ประสบภัยและแก้ปัญหาระยะยาว โดยสั่งให้การไฟฟ้านครหลวงลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมจ่ายเงินเยียวยาประชาชนเป็นการด่วน พร้อมทั้ง นัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ MEA กสทช. ผู้ประกอบการสื่อสาร เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน และแก้ปัญหาในวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2565 ทั้งเรื่องการช่วยเหลือ รับฟังสถานการณ์ แผนงาน และมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน
ความคืบหน้าล่าสุด (29 มิถุนายน 2565) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และโฆษก MEA ได้ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับกลุ่มร้านค้ารถเข็นซึ่งได้แจ้งความและประเมินค่าเสียหายในขณะเกิดเหตุไว้ ณ สถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ จำนวน 3 ราย ได้แก่ นางลำไพร ซาววงศ์, นางสาวสมใจ โสพิษ และนางแพง วรสาน โดยมี พลตำรวจตรีสรเสริญ ใช้สถิตย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 และพันตำรวจเอก นนท์ นุ่มบุญนำ รักษาการผู้กำกับการ สน.จักรวรรดิ ช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกให้กลุ่มร้านค้า ณ สถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ
โฆษก MEA กล่าวเพิ่มเติมว่า การไฟฟ้านครหลวงขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และได้ดำเนินมาตรการเยียวยาเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ประสบเหตุได้รับความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยไม่รอกระบวนการพิสูจน์หลักฐาน ล่าสุด นอกจากผู้เสียหายในกลุ่มร้านค้ารถเข็นแล้ว ได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อให้ความช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบในกลุ่มอื่น ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ สามารถดำเนินการได้และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ ขณะที่ด้านกระบวนการทางกฎหมาย ยังต้องรอผลการตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ และมูลค่าความเสียหาย เพื่อให้ความเป็นธรรมสูงสุดต่อผู้ได้รับผลกระทบ
โฆษก MEA ยืนยันการไฟฟ้านครหลวงจะปรับปรุงแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นอีก โดยมีมาตรการทบทวนแผนการบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ นำนวัตกรรมการแจ้งเตือนเหตุสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้ามาใช้เพิ่มเติมจากระบบเดิมที่มีอยู่ พร้อมเร่งตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้ารวมถึงจุดเสี่ยงต่าง ๆ และจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน
"MEA มีความพร้อมดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ให้มีความเพียงพอ มั่นคง ปลอดภัย และพร้อมให้บริการแก้ไขไฟฟ้าขัดข้อง ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter : @mea_news, Instagram : meafanclub และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130" นายจาตุรงค์ฯ กล่าว