พายุฝนกระหน่ำพัด ! "ต้นไม้" ล้มทับบ้านเรือนชาวบ้าน เสียหาย 115 หลังคาเรือน
11 มิ.ย. 2565, 16:21
วันนี้ 11 มิถุนายน 2565 ที่บ้านโคกปาจิก ตำบลโชคนาสาม อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบลโชคนาสาม ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 54 สำนักงานพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพบก ได้เร่งออกให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนลมแรงและลูกเห็บตก แรงลมพัดต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนชาวบ้าน และต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้าหลายจุดทำให้เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้าง โดยการนำรถเครนพร้อมเครื่องเลื่อยยนต์ตัดต้นไม้ที่ล้มทับบ้านเรือนชาวบ้านออก รวมทั้งช่วยรื้อและเก็บซากหลังคาบ้านเรือนชาวบ้านที่ถูกแรงลมพัดพังเสียหาย เพื่อทำการซ่อมแซม และแก้ไขระบบไฟฟ้าเพื่อให้กลับมาใช้เป็นปกติ อีกทั้งได้สำรวจความเสียที่เกิดขึ้น เพื่อแจ้งต่อจังหวัดในการรับการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนต่อไป
โดยช่วงเย็นวานนี้ 10 มิถุนายน 2565 ได้เกิดพายุลูกเห็บถล่มตำบลโชคนาสาม ตำบลปรือ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ นานกว่า2.ชั่วโมง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 115 หลังคาเรือน บ้างหลังถูกแรงพายุพัดหลังคาบ้านหลุดหายไปทั้งหลังปลิวไปตกทุ่งนาระยะทางไกลกว่า 200 เมตร บางหลังถูกต้นไม้ล้มทับ และ ยังมีต้นไม้ใหญ่ถูกพายุลมพัดถล่มอย่างรุนแรงโค่นล้มถอนรากถอนโคนจำนวนกว่า40-50ต้น ซึ่งบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายหนักหนึ่งในนั้นเป็นบ้านของนายจันทร์ทอง ทนงตน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโชคนาสาม ถูกแรงลมพัดหลังคาบ้านปลิวหายไปทั้งหลัง
หลังจากที่พายุสงบลง นายจันทร์ทอง ทะนงตน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโชคนาสาม พร้อมหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบลโชคนาสาม ลงพื้นที่ตรวจสอบค่าความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนเพื่อขอสนับสนุนความช่วยเหลือไปทางจังหวัด และขอความช่วยเหลือไปทางกรมการปกครอง และ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ นพค54. ออกตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอย่างหนักประมาณ 57หลังคาเรือน บ้านเรือนประชาชน ถูกแรงลมพัดหลังคาบ้านหลุดไปทั้งหลัง ต้นไม้ล้มทับบ้านได้รับความเสียหาย ทรัพย์สินเครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าวเปลือก ถูกพายุฝนกระหน่ำเปียกเสียหายทั้งหมด รวมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดจำนวน 115 หลังคาเรือนในพื้นที่ตำบลโชคนาสาม ได้รับความเสียหายจำนวน 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านโคกป่าจิก และ ตำบลปรือ บ้านถนนหัก ม.5 บ้านมะเมียง ม.4 ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ10 กว่าปี และยังมีต้นไม้ถูกพายุพัดถอนรากถอนโคนไปประมาณ40-50ต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจค่าความเสียหายและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นเพื่อรายงานไปทางกรมการปกครองอำเภอและหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อขอสนับสนุนถุงยังชีพเพื่อเยียวยาให้ความช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วนแล้ว
นายจันทร์ทอง ทนงตน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโชคนาสาม และได้เล่าให้ฟังว่าในช่วงเย็นขณะที่ตนเองพักอยู่ในบ้านคนเดียว จู่ๆได้เกิดพายุลูกเห็บและลมฝนพัดกระหน่ำอย่ารุ่นแรง ทำให้ตนเองทรงตัวไม่อยู่และยืนจับประตูบ้านไว้จู่ๆหลังคาบ้านถูกแรงลมพัดอย่างรุ่นแรงปลิวออกจากตัวบ้านไปทั้งหลัง ตนเองได้รับบาดเจ็บถูกเศษหลังคาตกใส่ศรีษะและถูกสังกระสีสันไทบาดที่แขนตนจึงรีบวิ่งไปหลบที่โรงจอดรถที่อยู่อีกฝั่งของตัวบ้านซึ่งคิดว่าเป็นที่ปลอดภัย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิต