น.ส.สุมาลี  เทพวิมลเพชรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองขีดขิน   จัดพิธีบวงสรวงโบราณสถานศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขีดขิน ต.บ้านหมอ  อ.บ้านหมอ  จ.สระบุรี  โดยมี นายถาวร  เทพวิมลเพชรกุล สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธี    นายพรศักดิ์  นาพูลผล นายอำเภอบ้านหมอ    พ.ต.อ.ชาณภาค สุวรรณชื่น ผกก.บ้านหมอ    พ.ต.อ.สุบรรณ โชคพิมพา ผกก.สภ.พระพุทธบาท  หน่วยราชการ และประชาชนที่แต่งชุดไทยสวยงาม  เข้าร่วมในพิธี

ในช่วงเช้ามีการทำพิธีบวงสรวงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ณ โบราณสถานเมืองขีดขิน มีอายุ 3,000 ปี มีการรำฉุยฉาย  และการแสดงโขน ที่หน้าตำหนัก จากนั้นได้ทำพิธีสรง นิมนต์พระ 9 รูป  โดยมีชาวบ้าน ได้นำอาหาร คาวหวานมาถวาย ฉันเพลในครั้งนี้ด้วย   ในงานยังมีแตรวง  ชาวบ้านได้เชิญ  พ.ต.อ.สุบรรณ  พิมพา   ผกก.สภ.พระพุทธบาท  จ.สระบุรี  เข้าร่วมรำวงอย่างสนุกสนาน  ที่หน้าตำหนักศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และยังมีการมอบรางวัลผู้มาร่วมงานที่แต่งชุดไทยสวยงาม  มอบรางวัลโดย น.ส.สุมาลี  เทพวิมลเพชรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองขีดขิน   

เมืองขีดขิน  บ้านคูเมือง ( เมืองขีดขินหรือเมืองปรันตปะ) ตั้งอยู่ ต.บ้านหมอ  อ.บ้านหมอ  จ.สระบุรี ลักษณะเป็นเมืองโบราณ มีคูโบราณ มีคูน้ำมีคูน้ำคั่นดินล้อมรอบตัวเมือง เป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมมน ยังคงปรากฏหลักฐานครบทั้ง 4 ด้าน ยาว ประมาณ  1,500  เมตร จากการสำรวจทางโบราณคดี พบแผ่นอิฐแบบทราวดี หินบด ขวานหินขัด เศษภาชนะดินเผา  พระพิมพ์   ดินดิบ  สันนิษฐานว่า บ้านคูเมือง หรือ เมืองขีดขินนี้ เศษภาชนะดินเผา เนื้อแกร่งสีเทาและสีดำ รอยประกบรูปเรือนแก้ว โบราณวัตถุที่พบนี้สันนิษฐานว่า บ้านคูเมืองหรือเมืองขีดขินนี้ มีอายุมาตั้งแต่สมัยนทวารวดี  ลพบุรี และสืบเนื่องมาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ตามลำดับ กรมศิลกากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน บ้านคูเมือง ( เมืองขีดขินหรือเมืองปรันตปะ เป็น โบราณสถานของชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอน 75 วันที่ 8 มีนาคม 2478

น.ส.สุมาลี กล่าว มีความศรัทธา เจ้าพ่อหลักเมืองสถานที่นี้ งานนี้ไม่มีใครสานต่อมานานหลายปี  เมื่อมีโอกาสสามารถจะมาทำงานตรงนี้อยากพัฒนาตรงนี้ที่ตรงนี้ให้คนรุ่นหลังๆ ได้ทราบตรงนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และอยากให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย ตั้งใจจะพัฒนาตรงนี้ให้แป็นรูปธรรมให้ได้

ดร. เฉลิมชัย  ภู่พัฒน์  เผยว่า ปี 2478 เมืองขีดขินได้ขึ้นทะเบียนราชกิจจานุเบกษา ในสมัยนั้นชาวบ้านยังจะไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่และยังเป็นเพียงคลองคูเล็กๆ  เมื่อ ปี พ.ศ. 2504  แม่น้ำป่าสักมาตามคลองชลประทาน จะดันคูดินพัง น้ำก็จะท่วมอำเภอบ้านหมอ ชาวบ้านก็มาช่วยกันทำคูดินกั้นไว้ ขณะเดียวกันก็มาบนบานศาลกล่าวเจ้าพ่อหลักเมืองว่าขออย่าให้น้ำท่วมถนนพัง  บ้านหมอจะถูกน้ำท่วมกลายเป็นทะเล และเมื่อน้ำไม่ท่วมก็มาแก้บนด้วยการสร้างศาลขึ้น บริจาคทุนทรัพย์คนละเล็กน้อยสร้างศาลขี้น  ขณะนั้น  นายเฉลิมชัย อายุเพียง 6-7 ขวบเอง ชาวบ้านก็ร่วมทำบุญยังมีรายชื่อติดอยู่  ทราบว่านายกคนใหม่มาบริหาร จะฟื้นฟูเมืองขีดขินโบราณสถานที่นี้ ให้เป็นที่รู้จักเป็นแหล่งท่องเที่ยว  อ.บ้านหมอ ก็มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งด้วย