จับแล้ว "อดีตยามตกงาน" ใช้หลอดไฟจี้ชิงเงิน พนง.สาวร้านสะดวกซื้อชื่อดัง กลางเมืองประจวบฯ
14 ก.ย. 2562, 13:52
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 14 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นำโดย พ.ต.อ.วัชรินทร์ บุญรักษ์ ผกก.สภ.เมืองประจวบ นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม สภ.เมืองประจวบฯ ควบคุมตัวนายอภิชาติ บุญปลอด หรือเอ็ม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/126 หมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ 4 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณห้องพักภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร หลังจากยอมรับสารภาพว่าได้เป็นผู้ก่อเหตุใช้หลอดไฟนีออนตีจนแตกเป็นปากฉลามแล้วสวมหมวกกันน็อคปิดบังอำพรางใบหน้าก่อเหตุจี้ชิงเงินพนักงานสาวร้านสะดวกซื้อ 7-eleven สาขาชุมชนนารอง ถนนเกาะหลัก เขตเทศบาล อำเภอเมืองประจวบ ได้เงินสดไปจำนวน 1,700 บาท เมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.39 นาที เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา
โดยคนร้ายได้ทำทีขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สแมช สีขาว หมายเลขทะเบียน ขจม.882 ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นของมารดามาจอดไว้ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 30 เมตร แล้วคว้าหลอดไฟและหมวกกันน็อคซึ่งไม่ใช่ของตนเองวางอยู่ใกล้ๆมาใช้เป็นอุปกรณ์ในการก่อเหตุเพื่อหวังนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัว และเล่นสนุกเกอร์ ซึ่งขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว ผู้จัดการพร้อมพนักงานร้านสะดวกซื้อ 7-eleven ได้มอบกระเช้าเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ และสร้างความอบอุ่นใจให้กับพนักงานเซเว่นและประชาชนที่มาใช้บริการ
นายอภิชาติ หรือนายเอ็ม (ผู้ต้องหา) ยอมรับสารภาพว่า ตนตกงานไม่มีงานทำไม่มีเงินใช้เลยคิดอยากลองทำดูคิดว่าคงได้เงินมาง่ายๆ โดยที่ไม่ได้คิดหรือเตรียมการมาก่อน เมื่อขับรถมาจอดเห็นมีแค่พนักงานอยู่ 2 คน และเห็นหมวกกันน็อคของใครไม่รู้วางอยู่ใกล้ๆจึงนำมาสวมแล้วใช้หลอดไฟตีจนแตกเป็นอาวุธ หลังเกิดเหตุจึงได้นำหลอดไฟไปทิ้งแล้วขับรถหลบหนีไปนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัวและเล่นสนุกเกอร์ และไม่คิดว่าจะถูกจับได้ซึ่งไม่คุ้มค่ากับการถูกจับเพื่อแลกกับเงินเพียง 1,700 บาท ซึ่งตนไม่เคยทำผิดและติดคุก หรือก่อเหตุลักษณะเช่นนี้มาก่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรก และครั้งนี้ถ้าตนเองไม่เจอหมวกกันน็อควางอยู่ก็คิดว่าจะหันหลังกลับบ้านเลิกคิดที่จะก่อเหตุ บังเอิญเจอหมวกกันน็อคจึงตัดสินใจลองทำดู
พ.ต.อ.วัชรินทร์ บุญรักษ์ ผกก.สภ.เมืองประจวบ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้จากการตรวจเช็คประวัติอาชญากรรมไม่พบว่าเคยกระทำผิดมาก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งใจและใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการแกะหาร่องรอย และตรวจหาภาพจากกล้องวงจรปิดทีละจุดจนพบตัว และทราบว่าก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.)หรือ(ยาม) แห่งหนึ่งมาได้ประมาณ 3 เดือนก่อนจะออกมาก่อเหตุ ซึ่งหลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัว และแทงสนุกเกอร์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่งตัวฝากขังที่ศาลติดสินต่อไป