เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันนี้ (9 มิถุนายน 2562) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางสาววรรณวิษา หนูสิทธิ์  อายุ 31 ปี ลูกจ้างร้านข้าวต้ม บริเวณถนนสายท่าแฉลบ อำเภอเมืองจันทบุรี ว่าเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ ภายในมีเงินจำนวนกว่า 5 หมื่นบาท และต้องการส่งคืนให้กับเจ้าของคือ นายรัศมี เอมรุจิ อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าร้านข้าวต้มที่ทำตกไว้ที่ร้านตั้งแต่เวลาประมาณ 1 ทุ่มของคืนที่ผ่านมา ซึ่งตนและเจ้าของร้านได้รอจนถึงประมาณ 4 ทุ่ม ยังไม่พบว่ามีใครมารับจึงนำกระเป๋า พร้อมเงินสดและเอกสารทั้งหมดมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อไปยังเจ้าของ และทำการนัดแนะเพื่อมาคืนเงินกันในวันนี้
            
 

โดย นายรัศมี เอมรุจิ เจ้าของกระเป๋าสตางค์ ได้เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ตนได้ไปนั่งรับประทานข้าวต้มที่ร้านริมถนนสายท่าแฉลบ จังหวะที่หยิบเงินจ่ายค่าข้าวต้มและเก็บกระเป๋าสตางค์ใส่กระเป๋ากางเกง กระเป๋าสตางค์น่าจะตก แล้วตนไม่รู้ เนื่องจากปกติตนแข้งขาก็ไม่ค่อยแข็งแรง เดินไปไหนมาไหวลำบาก จนกระทั่งกลับถึงบ้าน ทำธุระส่วนตัว และสวดมนต์ ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังจึงรับสาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่ามีคนพบกระเป๋าสตางค์ จึงรู้ว่าตนเองทำเงินจำนวนหลายหมื่นบาทหาย และรู้สึกดีใจที่มาเจอคนดี เป็นโชคดีของตนเองที่เจอคนน้ำใจดี และส่วนหนึ่งต้นคิดว่าเป็นเพราะอานิสงค์จากการที่ตนชอบทำสมาธิและทำบุญอยู่บ่อยๆ
          
ด้านนางสาววรรณวิษา หนูสิทธิ์  ผู้ที่พบกระเป๋าสตางค์ บอกว่า หลังจากคุณลุงเจ้าของกระเป๋าทานข้าวต้มเสร็จ ตนได้เดินมาเก็บชามที่โต๊ะ มองที่พื้นพบว่ามีกระเป๋าสตางค์ตกอยู่ ด้วยความตกใจ รีบแจ้งเจ้าของร้าน ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า ให้รอประมาณ 2 ชั่วโมงก่อน เพราะเจ้าของกระเป๋าอาจจะย้อนมารับกระเป๋าคืน รอจนกระทั่งประมาณ 4 ทุ่ม ไม่มีใครมารับคืนจึงมาแจ้งความไว้ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อหาเจ้าของกระเป๋า โดยตนคิดว่าไม่ได้อยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง และลุงอายุก็มากแล้ว เงินส่วนนี้มีความจำเป็นมากๆ หากหายไปคงจะลำบาก จึงตั้งใจนำมาคืนให้กับลุงโดยไม่หวังอะไรตอบแทน