"ชลบุรี" พบผู้ติดเชื้อโควิดวันที่ 7 พ.ค.65 เพิ่มอีก 260 ราย
7 พ.ค. 2565, 08:21
ล่าสุด (7 พ.ค.65) ทางด้านเพจเฟซบุ๊ก "สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สสจ.ชลบุรี" รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดในพื้นที่ โดยข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.ชลบุรี) ณ เวลา 06.30 น.วันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ระบุว่า วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 260 ราย
วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันรายใหม่ RT-PCR จำนวน 260 ราย ผู้เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ATK 2,065 ราย
ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 1,008,279 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 868 คน (อัตราป่วย 86.09 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 1 ราย (0.10 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 1 ราย (0.10 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 2 ราย (0.20 ต่อแสนประชากร)
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,941,347 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 621 คน (อัตราป่วย 31.99 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 8 ราย (0.41 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 2 ราย (0.10 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 1 ราย (0.05 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 131,124 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 256,602 คน รวม 387,726 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 436 คน (อัตราป่วย 112.45 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 10 ราย (2.58 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 5 ราย (1.29 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 9 ราย (2.32 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจรายใหม่ 1 ราย (พบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2565)
ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 ราย (รายที่หนึ่งอายุ 68 ปี, รายที่สองอายุ 59 ปี) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564, รายที่สองไม่พบประวัติการรับวัคซีน)
ดังนั้นการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ โดยเฉพาะเข็มที่สาม ซึ่งเป็นเข็มกระตุ้นที่ผู้ทีอาศัยในจังหวัดชลบุรียังไม่ได้รับการฉีดจำนวนมาก การรับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ยังมีอัตราอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากมาโดยตลอด ขอความร่วมมือให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นครบตามเกณฑ์
ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี
ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน
ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
วัคซีนเป็นหลัก รู้จักป้องกัน แยกกักโควิด เข้าสู่โรคประจำถิ่น
1. วัคซีนเป็นหลัก วัคซีนมีความสำคัญมากในการเข้าสู่ภาวะการดำเนินชีวิตที่อยู่ร่วมกับโควิด-19 วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
2. รู้จักป้องกัน ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป
3. แยกกักโควิด ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงควรกักตัว ไม่อยู่ในที่ชุมนุมชน
4. เข้าสู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด คัดกรอง ATK เฉพาะผู้ที่มีอาการ หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรง หรือเป็นบุคลากรที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด