"พ่อเฒ่า" นั่งดื่มสุรากับเพื่อนร่วมวง ก่อนถูกทำให้เสียชีวิต
6 พ.ค. 2565, 09:02
ชายชราวัย 82 ปี เสียชีวิตขณะนั่งดื่มสุรากับเพื่อนร่วมวง จำนวน 2 คน ล่าสุดผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีการเล่นซ้อมมวยกันขณะเมาสุราและพลาดหกล้มโดยเข่าไปโดนน้าอกผู้เสียชีวิตจนกระดูกซี่โครงหักยุบเสียชีวิต
วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นายสมชาย ใจเที่ยง หนุ่มอายุ 48 ปี ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเหตุนายต๊อก วงศ์หาร อายุ 82 ปี เสียชีวิตเมื่อวานที่ผ่านมา ขณะนั่งดื่มสุรากับนายสมชาย ใจเที่ยง โดยญาติของผู้เสียชีวิตระบุว่าผู้ตายกับผู้ต้องหาคนดังกล่าว มักจะมานั่งดื่มสุราที่บ้านของนายต๊อก อยู่เป็นประจำ และทุกครั้งที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร มีเพียงแต่พูดคุยกันเสียงดังแต่ล่าสุดนายต๊อกได้เสียชีวิตไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร
ขณะที่ พ.ต.อ.บวร ไชยคำ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยา ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการแจ้งเหตุเมื่อเวลา 18:00 น. ของวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา และทำการ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์โรงพยาบาลพะเยา พบว่าผู้ตายเสียชีวิต คาดว่าน่าจะเป็นเวลาประมาณ 14.30 น. โดยมีบาดแผลที่บริเวณตาและบริเวณปาก รวมทั้งบริเวณหน้าอกมีอาการยุบเนื่องจากกระดูกซี่โครงหัก ซึ่งคาดว่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนพบว่าผู้ตายได้นั่งดื่มสุรากับนายสมชาย ใจเที่ยง ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และพบว่าเมื่อเวลาประมาณบ่าย 14.30 น.ได้มีนายสุวิทย์หรือ รัส อะชินนะ ได้ขับรถจักรยานมาที่บ้านนายต๊อก และพบว่านายสมชาย ใจเที่ยง ยังคงนั่งดื่มสุราโดยมีนายต๊อกนอนอยู่บริเวณด้านข้างมีเลือดไหลออก ตนเองจึงได้ขับจักรยานกลับบ้านและไม่ได้อยู๋ร่วมวงสุรากับทั้งสอง ต่อมาทางเจ้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายสมชาย ใจเที่ยงเข้าทำการสอบสวนและได้ให้การรับสารภาพว่าตนเองได้ทำให้นายต๊อก วงค์หาร เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตและจะดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่นายสมชาย ใจเที่ยง ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่าขณะที่ดื่มสุรากันอยู่ได้มีการที่จะสอนเชิงมวยกันเนื่องจากนายต๊อก วงศ์หาร ซึ่งอดีตเป็นนักมวยเก่า จึงได้มีการประลองเชิงมวยกันแต่พลาดเนื่องจากตนเอง ได้ต่อยโดนนายต๊อก และนายต๊อกได้ล้มหงายลง ตนเองก็เกิดการเสียหลักเนื่องจากเมาสุราหนักและล้มลงโดยการเอาเข่าทับหน้าอกของนายต๊อก และคิดว่าไม่ได้เสียชีวิต ต่อมาจึงได้เรียกให้แม่และน้าของตนเองมารับที่บริเวณหน้าบ้านของนายต๊อก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายนายต๊อกให้เสียชีวิต และไม่คิดว่านายต๊อกไม่เป็นอะไร