รวบตัว ! "นักท่องเที่ยว" คาผับดังใจกลางเมืองระยอง พบมีปัสสาวะสีม่วง 5 ราย
16 เม.ย. 2565, 12:09
เวลา 05.00 วันที่ 16 เมษายน 2565 พ.ต.อ. บัญชา คล้ายน้อย ผกก สืบสวนภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ. อภิชนันท์ วัฒนวรางกูร ผกก. สภ.เมืองระยอง เข้าตรวจสอบ สถานบันเทิง กลางเมืองระยอง หลังจากมีประชาชนร้องเรียนว่า มีการประกาศเชิญชวนนักเที่ยวตามออนไลน์ มีนักเที่ยวเข้าใช้บริการจำนวนมากเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด-19 และยังเปิดเกินเวลา พร้อมกับการสืบลาดตระเวนออนไลน์ พบว่ามีจริง จึงได้นำกำลังหน้าที่ตำรวจคอมมานโด ชุด บูรพา 491จำนวน 30 นาย เข้าปิดล้อม สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง บริเวณถนนสายราษฎร์บำรุง อำเภอเมือง ระยอง เข้าตรวจสอบ พบว่าที่ด้านหน้ามีรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดอยู่ ที่หน้าประตูยังมีคนเฝ้าดูแล
เมื่อเข้าไปภายใน มีนักเที่ยว และมีเสียงเพลงดัง จึงสั่งให้หยุดเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ก็เตรียมจะหนีออกจากผับ แต่เจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดและให้เปิดไฟสว่างทันที และควบคุมนักเที่ยวพร้อมคนดูแล รวม 59 คน เมื่อตรวจสอบภายใน พบว่า มียาเสพติดอยู่ที่พื้น ยาเค4ถุง ยาอี2เม็ด จึงนำตัวนักเที่ยวและผู้ดูแลทั้งหมดสอบสวน ที่ สภ.เมืองระยอง ตรวจปัสสาวะพบสีม่วง 5 ราย เป็นผู้ชาย 4 คน ผู้หญิง 1 คน
โดยจากพฤติการของสถานบันเทิงแห่งนี้ หลังจากช่วงเวลา 23:00 น. จะมีการทยอยให้รถที่อยู่บริเวณหน้าร้าน หรือผู้ที่จะเข้ามาเที่ยวให้ถอยเข้าไปจอดหลังร้านให้หมดและทำการปิดไฟบริเวณหน้าร้านให้เหมือนว่า สถานบันเทิงนั้นใกล้จะปิดแล้ว ส่วนราคาห้อง VIP จะเหมาตั้งแต่ 19:00 - 03:00 น. ในราคา 1000 บาท มีทั้งหมด 7 ห้อง
จากการสอบสวน ทั้ง 59 ราย ถูกดำเนินคดีแยกเป็น 54 ราย แยกเป็น 54 ราย ดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ
1.ชุมนุม หรือ ทำกิจกรรม หรือมั่วสุม ในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
2.ฝ่าฝืนคำสั่งจ.ระยอง เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกัน และ ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่วนอีก 5 ราย ดำเนินคดี 5 ข้อหาคือ
1.ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาอี) อันเป็นการฝ่าฝืนมาตราที่107
2.ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท2(ยาเค) อันเป็นการฝ่าฝืนมาตราที่107
3.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท2 เพื่อเสพ อันเป็นการฝ่าฝืนตามมาตรา 104
4.ชุมนุม หรือ ทำกิจกรรม หรือมั่วสุม ในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
5.ฝ่าฝืนคำสั่งจ.ระยอง เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกัน และ ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19