ชุดปฏิบัติการพิเศษ จับคนลักลอบขาย ลูกเสือโคร่ง อ้างนำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
6 เม.ย. 2565, 14:39
ในหลายปีที่ผ่านมามีข่าวจนท.พบผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่า และสัตว์ป่าคุ้มครองแบบผิดกฏหมายกันมากมาย ล่าสุด (6 เม.ย.65) มีรายงานว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษ ชุดเหยี่ยวดง ได้จับผู้ค้าลูกเสือโคร่งสำเร็จ
โดย นายนาวี ช้างภิรมย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เปิดเผยว่า นายอรรถพร บัวฝ้าย ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362/ชุดเหยี่ยวดง สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับการประสานจากตำรวจ กก.1 บก. ปทส. ว่ามีการประกาศขายสัตว์ป่า จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดลูกเสือโคร่ง ทางสื่อออนไลน์ (Facebook)
หลังได้รับมอบจากผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ให้นำชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 ส่วนประสานความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติ และชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ร่วมดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว และได้สืบทราบว่าจะมีการนัดรับส่งสินค้าสัตว์ป่า บริเวณลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้า ตำบลธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
วันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลา 19.05 น. จนท.ได้ร่วมกันวางแผนจับกุมหลังจากมาถึงสถานที่ มีชาย 1 คน ขับรถเก๋งเข้ามาที่ลาดจอดรถเพื่อส่งมอบสัตว์ป่าให้ชาย อีก 2 คน ซึ่งรออยู่ก่อนแล้ว ทางจนท.ที่เห็นเหตุการณ์มาตลอด จึงเข้าแสดงตัว และเข้าตรวจยึด-จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 คน คือ นายพี (ขอสงวนนามสกุล) นายตุ้ม (ขอสงวนนามสกุล) นายตรี (ขอสงวนนามสกุล) และตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดลูกเสือโคร่ง (อายุประมาณ 4 เดือน) จำนวน 1 ตัว รถยนต์เก๋ง ฮอนด้าซิตี้สีเทา 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง
นายพี นายตุ้ม ให้การว่าซื้อลูกเสือโคร่งมาจากนายตรี (ขอสงวนนามสกุล)ที่อ้างว่านำลูกเสือโคร่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปขายต่อ ซึ่งหากมีการซื้อขายสำเร็จ จะแบ่งเงินค่านายหน้าให้นายพีฯ และนายตุ้ม คนละครึ่ง แต่ถูกคณะเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน ทางจนท.ได้พิจารณาแล้วว่า ร่วมกันว่าการกระทำดังกล่าวของนายพี (ขอสงวนนามสกุล) นายตุ้ม (ขอสงวนนามสกุล) และนายตรี (ขอสงวนนามสกุล) กรณีร่วมกันครอบครอง และร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดลูกเสือโคร่ง จำนวน 1 ตัว (มูลค่า 400,000 บาท) พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิดดังกล่าวข้างต้น มีความผิดตามมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
ทางด้านจนท.ได้ควบคุมตัว บุคคล 3 คน เป็นผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวข้าวต้น พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ได้ขอความเห็นชอบจากพนักงานสอบสวน ขอรับมอบของกลาง ได้แก่ สัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดลูกหนังเสือโคร่ง จำนวน 1 ตัว ส่งมอบให้กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับตรวจสอบชนิดพันธ์ุและดูแลรักษาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป โดยจากนี้กรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะนำลูกเสือโคร่งที่ตรวจยึดได้ ไปตรวจสอบขยายผลกับฐานข้อมูลเสือโคร่งในกรงเลี้ยง ทางขบวนการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า ว่าลูกเสือโคร่งดังกล่าว มีที่มาอยู่ในประเทศไทยหรือไม่อย่างไรต่อไป
ที่มา ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช