วันนี้ (30 มี.ค.65) ที่ทำการสมาคมคนตาบอดจังหวัดสุรินทร์ ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายเชิดชัย สังเกตกิจ นายกสมาคมคนตาบอดชาวอีสาน กล่าวกับผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ว่า ในวันเสาร์ ที่ 2 เมชายน 2565 เวลา 10.00 น. สมาคมคนตาบอดชาวภาค อีสานทั้ง 20 จังหวัด ได้ดำเนินการไถ่ชีวิตโค-กระบือ จำนวน 60 ตัว มอบให้กับสมาชิกสมาคมคนตาบอดภาคอีสาน ทั้ง 20 จังหวัด จังหวัดละ 3 ครอบครัว เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้กับคนตาบอด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา -2019 หรือโควิด -19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก และประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในภาวะซบเซา ประกอบกับทางภาครัฐ ได้มีมาตรการขอความร่วมมือกับประชาชนให้อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทั้งยังมีนโยบาย ให้ปิดสถานประกอบการในภาคบริการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ ของคนตาบอด ซึ่งส่วนใหญ่ มีอาชีพในการนวดแผนโบราณ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้การประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตของคนพิการโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนตาบอด ทำให้คนตาบอดที่เคยมีรายได้ จากการประกอบอาชีพต่างๆ เช่น อาชีพนวด อาชีพค้าสลาก อาชีพการแสดงความสามารถในที่สาธารณะ และอื่นๆ จากผลกระทบดังกล่าวทำให้คนตาบอดต้องกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในภูมิลำเนาของตนเอง จนเกิดการว่างงาน ขาดรายได้ ซึ่งคนตาบอดสามารถประกอบอาชีพที่หลากหลายได้ตามความรู้ ความสามารถและทรัพยากรที่มีอยู่ หากได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน อาทิเช่น อาชีพเกษตรกรรมการเลี้ยงโค-กระบือก็จะสามารถสร้าง รายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป โครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้กับคนตาบอด 20 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นโครงการที่ผู้มีจิตนเป็นกุศลได้ร่วมกันที่จะทำการไถ่ถอนชีวิตโค-กระบือจากโรง ฆ่าสัตว์ เพื่อมอบให้คนตาบอดและครอบครัว เป็นแม่พันธุ์เพื่อขยายพันธุ์ เบื้องต้นจังหวัดละ 3 ครอบครัว ครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพเกษตรกรรมสำหรับคนตาบอดในภูมิลำเนาของตนเอง ไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์ มอบให้คนตาบอดและครอบครัวใน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ต้องการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการเลี้ยงโค-กระบือ ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนตาบอดและครอบครัวสามารถประกอบอาชีพในภูมิลำเนาของตนเองได้ เพื่อถ่ายทอดความรู้ตามหลักวิชาการในการเลี้ยงโค-กระบือให้กับคนตาบอดและครอบครัว ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนตาบอดและครอบครัวดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2565 โดยผู้ที่จะได้รับมอบโค-กระบือจากสมาคมคนตาบอด จะต้องผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการระดับจังหวัดมีหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และเงื่อนไขของโครงการ เป็นสมาชิกสมาคมคนตาบอดชาวอีสาน มีพื้นที่สำหรับเลี้ยงโค-กระบือ สมาชิกในครอบครัวให้การยอมรับและสนับสนุนในการเลี้ยงโค-กระบือของสมาชิก เมื่อโค-กระบือของสมาชิกรับไปเลี้ยงตกลูก ให้สมาชิกส่งแม่พันธุ์คืนโครงการ หลังจากที่ลูกของแม่พันธุ์มีอายุ ครบ 1 ปี ห้ามมีให้สมาชิกโครงการขายลูกพันธุ์ที่เกิดจากแม่พันธุ์ให้กับโรงฆ่าสัตว์ เมื่อสมาชิกของโครงการเสียชีวิต ให้โค-กระบือของโครงการอยู่ในความรับผิดชอบของทายาทสมาชิกตาม กฎหมายต่อไป เมื่อโค-กระบือที่เป็นแม่พันธุ์มีอาการเจ็บปวดหรือตาย ให้รีบแจ้งต่อผู้รับผิดชอบโครงการทันที ในกรณีแม่พันธุ์ถูกขโมยหรือหาย ให้สมาชิกโครงการแจ้งต่อผู้รับผิดชอบโครงการและให้แจ้งความร้องทุกข์ต่อ เจ้าหน้าตำรวจในท้องที่ทันที จะเป็นการไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์ มอบให้คนตาบอดและครอบครัวใน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 60 ตัว ต้องการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการเลี้ยงโค-กระบือ