รอง ผบช.ตชด.ลงพื้นที่ จ.กาญจน์ ครบ 9 วัน การติดตามการค้นหาตัว ด.ต.นิกันฯ หายตัว ส่วน จนท.เกือบ 300 นาย ปูพรมค้นหาอีกรอบ แต่ยังไร้ร่องรอย คาดจิตคิดไปเองว่าถูกไล่ล่า จึงใช้หลักสูตรที่ฝึกมาหลบหลีก

ครบ 9 วันในการติดตามกรณี ด.ต.นิกัน อัศพิมพ์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.13 อายุ 50 ปี ไปเข้าเวรที่ ร้อย ตชด.136 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังจากออกเวรแล้วหายตัวไป ซึ่งนางรุ่งอรุณ สุรีย์เลิศ ภรรยาและครอบครัวมีความเป็นห่วงเป็นอย่างมากเนื่องจากไม่สามารถติดต่อได้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตชด.136  พร้อมเจ้าหน้าที่ทีมสายน้ำ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ระดมกำลังช่วยกันออกติดตามหา จนกระทั่งพบรถจักรยานยนต์ของ ด.ต.นิกันฯ จอดทิ้งเอาไว้บริเวณริมแม่น้ำท้องที่บ้านวังโพธิ์ หมู่ 1 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค โดยมีเสื้อกางเกง รวมทั้งรองเท้า ที่เป็นชุด ตชด.ถูกถอดทิ้งเอาไว้

โดยเมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 21 มี.ค. 65 เจ้าหน้าที่พบ ดต.นิกันฯ ไม่สวมรองเท้า ใช้เสื้อคลุมหัว และนุ่งกางเกงในเพียงตัวเดินผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ที่สถานีรถไฟวังโพธิ์ และเวลา 05.00 น.เดินไปตามรางรถไฟมุ่งหน้าไปทางด้านถ้ำชะนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกันออกค้นหามาเป็นเวลา 8 วัน 8 คืนแต่ไม่พบตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ 29 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 45/1 หมู่ 1 ต.ลุ่มสุม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ของนายทินกร เอียกพงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลวังโพธิ์ สถานที่ใช้เป็นกองบัญชาการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย พล.ต.ต.ไพโรจน์ ทานธรรม รอง ผบช.ตชด.เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในการค้นหา ด.ต.นิกัน อัศพิมพ์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.13 อายุ 50 ปี โดยมี พ.ต.อ.นรินทร์ คำแก่น รอง ผบก.ตชด.ภาค 1 พ.ต.ท.ยอดยิ่ง ชมมี รอง ผกก.ตชด.13 ให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์

จากนั้นได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือและวางแผนการปูพรมค้นหา ด.ต.นิกันฯ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ ร้อย ตชด.135 เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.136 เจ้าหน้าร้อย ตชด.133 เจ้าหน้าที่ ทต.วังโพธิ์ เจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการใต้น้ำ ทีมชลกาญจน์ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เจ้าหน้าที่ชุดใต้น้ำ รวมทั้งชาวบ้านจากหมู่ 3 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค ร่วมประชุม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

จากนั้นเวลา 14.30 น.พล.ต.ต.ไพโจน์ ทานธรรม รอง ผบช.ตชด.ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ยอดยิ่ง ชมมี รอง ผกก.ตชด.13 เป็นประธานปล่อยแถว พร้อมกับทำความเข้าใจกับผู้ที่เข้าร่วมปฏิบัติการปูพรมติดตามหาตัว ด.ต.นิกันฯ ร่วม 300 คน โดยใช้เวลาทำความเข้าใจถึงแผนการไม่นานนักก็แล้วเสร็จ

สำหรับการค้นหาในครั้งนี้ ได้มีการวางแผนให้เจ้าหน้าที่ปูพรมหันหลังให้กันแล้วเดินเรียงแถวหน้ากระดานไปตามเชิงเขาทั้งด้านซ้ายและขวา และให้ทุกคนสำรวจพื้นที่อย่างละเอียดโดยเฉพาะตามพุ่มไม้น้อยใหญ่ พุ่มหญ้าที่ขึ้นหนาทึบ รวมทั้งตามร่องดินภายในไร่มันสำปะหลัง บ้านร้างและกระต๊อบตามหัวไร่ปลายนา ที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เพราะ ด.ต.นิกัน อาจจะใช้เป็นสถานที่นอนหลับพักผ่อนในช่วงเวลากลางวัน

 และนอกจากนี้ยังได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตชด.จัดชุดซุ่มอยู่บนเขาชะนีอีก 1 ชุด รวม จำนวน 15 นาย และได้มีการตั้งจุดตรวจเอาไว้บริเวณชายเขา หากเจ้าหน้าที่พบตัว ด.ต.นิกันฯก็ให้รีบประสานงานทางวิทยุมายังศูนย์บัญชาการชั่วคราวโดยเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ได้สอบถามเพื่อนๆของ ด.ต.นิกันฯ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ ตชด.ด้วยกัน ทราบว่า ด.ต.นิกัน อัศพิมพ์ เดิมเป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี และมารับราชการอยู่ที่ ร้อย ตชด.136 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 ที่ผ่านมา ด.ต.นิกันฯไม่เคยมีปัญหาหนี้สิน และไม่เคยมีปัญหากับครอบครัวแต่อย่างใด จึงไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้เครียดจนต้องหนีไป

แต่ประเด็นสำคัญคือ ด.ต.นิกันฯ เป็นคนเงียบไม่ชอบเสียงดัง แต่มีนิสัยชอบดื่มสุรา โดยจะนั่งดื่มกับเพื่อนสนิท 1-2 คนเท่านั้น และที่ผ่านมา ด.ต.นิกันฯเคยประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ล้มได้รับบาดเจ็บมาแล้วหลายครั้ง บางครั้งต้องนอนสลบนานถึง 2 วัน และทุกครั้งที่ประสบกับอุบัติเหตุก็ไม่เคยไปพบหมอแม้แต่ครั้งเดียว ภายหลัง ด.ต.นิกันฯ เริ่มมีอาการทางสมอง

และวันก่อนที่จะมาเข้าเวรแล้วหายตัวไปนั้น ด.ต.นิกันฯ เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม จนได้รับบาดเจ็บ ปากและใบหน้าเป็นแผล แต่ก็ไม่ยอมไปพบแพทย์เช่นเคย ซึ่ง ด.ต.นิกันฯ จบหลักสูตรการฝึกตามรูปแบบของ ตำรวจ ตชด.มาครบทุกหลักสูตร ซึ่งการหายตัวไปของ ด.ต.นิกันฯในครั้งนี้นั้น เพื่อนๆ ตชด.ด้วยกันต่างก็มีความเห็นว่า เกิดจากอาการทางสมอง และการที่เจ้าหน้าที่ค้นหาตัวไม่พบ อาจจะเป็นเพราะ ด.ต.นิกันฯเข้าใจไปเองว่ากำลังถูกคนไล่ล่า หรือ ด.ต.นิกันฯ อาจจะกำลังคิดทดลองใช้ความรู้ที่เคยฝึกอบรมมาในการหลบซ่อนตัว เพื่อให้ทีมค้นหาหาตัวไม่เจอก็เป็นไปได้