วันที่ 29 มีนาคม 65 นายสมบัติ ทองคำ อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 บ้านหนองพังพวย ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้นำผู้สื่อข่าวไปดูสถานที่จุดที่มีคนนำพระพุทธรูปจำนวน 2 องค์ไปทิ้งไว้กลางทุ่งร้างในหมู่บ้านหนองกก หมู่ 11 ตำบลอ่าวน้อย ซึ่งเป็นหมู่บ้านข้างเคียง ที่มีผู้ว่าจ้างตนเองนำรถไถไปรับจ้างดันป่าใช้ทำเป็นสถานที่เลี้ยงวัว

โดยเมื่อไปถึงพบเป็นพระพุทธรูปจำนวน 2 องค์ เป็นพระพุทธชินราช 1 องค์ และพระหลวงปู่ทวด 1 องค์ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว พร้อมขันอลูมิเนียมลายไทยจำนวน 2 ใบ ซึ่งมีสภาพยังสมบูรณ์ไม่แตกหัก แต่มีสีผิวลอกบางส่วนตามกาลเวลา ซึ่งคาดว่าถูกทิ้งไว้ในป่าแห่งนี้เป็นเวลานานไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยพระพุทธรูปดังกล่าวเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธและชาวประจวบเคารพเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งพระหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกได้ประดิษฐานไว้ที่วัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาสักการะบูชากราบไหว้จำนวนมาก

 

 

นายสมบัติ ทองคำ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาได้มีลูกบ้านข้างเคียงได้ว่าจ้างให้ตนนำรถไถมาดันป่าที่เช่าไว้ เพื่อให้หญ้าขึ้นใช้เลี้ยงวัว ซึ่งในขณะที่ตนกำลังใช้รถไถดันอยู่นั้นได้พบเห็นพระพุทธรูปดังกล่าวถูกตั้งทิ้งไว้กลางทุ่งร้าง พร้อมขันอลูมิเนียม 2 ใบ เหมือนมีใครนำมาทำประกอบพิธีอะไรบางอย่าง ไม่ได้นำมาโยนทิ้งตามปกติ และยังมีสภาพที่สมบูรณ์ ตนจึงไม่กล้าลบหลู่ด้วยการใช้รถไถดันทิ้ง จึงได้เว้นจุดนี้ไว้แล้วนำน้ำมากราบไหว้ขอขมาเพราะมีความเชื่อส่วนตัว และเคารพเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งตนเองก็ไม่กล้าเคลื่อนย้ายไปไว้ที่อื่นเนื่องจากเกรงว่าจะทำไม่ถูกต้อง แล้วจะเกิดสิ่งไม่ดีขึ้นกับตัวเอง โดยในขณะที่ตนเองกำลังใช้รถไถดันป่าที่รกร้างอยู่นั้นเกือบถอยหลังไปเหยียบลูกชายของผู้ว่าจ้างอายุประมาณ 13 ปี ตนเองมองไม่เห็นไม่รู้ว่าลูกชายของผู้ว่าจ้างขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาตอนไหน และไม่คิดว่าจะมีใครขับรถจักรยานยนต์เข้ามาในป่ารกร้าง พอมาเห็นอีกทีอยู่ติดใกล้กับล้อรถไถแล้วตนจึงตกใจมาก ถ้าหากพลาดเหยียบเด็กไปไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และเชื่อว่าถ้าหากตนเองดันพระพุทธรูป 2 องค์ที่เจอไว้ทิ้งไปอาจทำให้ตนขับรถไถถอยหลังไปเหยียบเด็กตายก็เป็นได้ จึงอยากให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านนี้มาเคลื่อนย้ายพระออกไปไว้ในที่พึงสมควรและเหมาะสม