"ผู้ใหญ่บ้านบ้านช่องกะเหรี่ยง" รวมพลังชุมชน ต้อนรับประชาชนเข้ามาศึกษาศูนย์เรียนรู้เกษตรครบวงจร
11 ก.ย. 2562, 10:37
วันที่ 11 ก.ย. 2562 ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า นายศุภกร พงษ์สวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลหนองหญ้า พร้อมด้วยคณะกรรมการ ร่วมให้การต้อนรับคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงานเจ้าหน้าที่และประชาชนจากเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี ที่มาศึกษาดูงาน ณ.ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านช่องกระเหรี่ยง ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยคณะกรรมการได้มีการแนะนำตัวและกล่าวต้อนรับคณะพร้อมทั้งบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน,ความเป็นมาของศูนย์แห่งนี้เพื่อใช้เป็นแนวทาง
สำหรับผู้มาศึกษาดูงาน ก่อนจะนำคณะไปยังศูนย์เรียนรู้ต่างๆของศูนย์ อาทิเช่น ฐานเรียนรู้การเลี้ยงไส้เดือนสำหรับนำมูลมาใช้เป็นปุ๋ยบำรุงดินในการเกษตร,ฐานการทำปุ๋ยหมักจากเศษวัชพืช,ฐานเกษตรปลอดสาร,ฐานการเลี้ยงปลา,ฐานการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพจุลินทรีย์มหัศจรรย์ สำหรับเร่งต้น เร่งใบ เร่งรากทำให้พืชโตเร็ว ,ฐานการเรียนรู้การเพาะเห็ดหลินจือแดง เพื่อนำมาสกัดเป็นชาชงสมุนไพรจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ผสมหญ้าหวาน ซึ่งได้รับความสนใจจากคณะศึกษาดูงานในครั้งนี้อย่างมาก
ในด้านของนายศุภกร พงษ์สวัสดิ์ ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านช่องกะเหรี่ยง กล่าวว่า สำหรับศูนย์เรียนรู้แห่งนี้เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของแม่ที่ได้มาซื้อที่แห่งนี้ไว้ตั้งแต่วัยเด็ก ตนจึงมีความผูกพันกับสถานที่แห่งนี้ จึงได้มีแนวคิดริเริ่มที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อชุมชน ประกอบกับอาชีพดั้งเดิมของคนแถวนี้มีอาชีพสานเข่ง แต่ปัจจุบันใกล้จะสูญหายเนื่องจากคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่สืบทอดฝีมือจากบรรพบุรุษรวมทั้งมีข้อบังคับเกี่ยวกับการตัดไม้ที่ผิดกฏหมาย จึงได้ส่งเสริมให้มีการปลูกไผ่ทดแทนภายในชุมชนคงไว้ซึ่งให้อาชีพดั้งเดิม จึงเป็นที่มาของการดำเนินการจัดตั้งศูนย์แห่งนี้
ส่วนที่มาของบ้านช่องกระเหรี่ยงนั้นหลายคนอาจเข้าใจว่าจะอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารและอยู่ตามแนวชายแดน แต่ที่จริงแล้วบ้านช่องกระเหรี่ยง อยู่ในเขตตัวเมืองกาญจนบุรี ซึ่งแต่เดิมเป็นพื้นที่ เส้นทางช่องทางสำหรับกะเหรี่ยงเดินผ่านซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีแล้วจึงได้นำชื่อมาเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและได้มีการพัฒนาฐานเรียนรู้ต่างๆขึ้นมา แต่ส่วนมากผู้ที่เข้ามาศึกษาดูงานจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษคือฐานการผลิตเห็ดหลินจือ ที่มีขบวนการผลิตตั้งแต่การเพาะเนื้อเยื่อ ผลิตดอก ผลิตก้อน พร้อมนำมาแปรรูปจนเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป ของชุมชนสินค้าเพื่อสุขภาพ และที่สำคัญทางศูนย์ยังเน้นทำการเกษตรปลอดสารซึ่งเป็นจุดเด่นของศูนย์เรียนรู้
นายศุภกร พงษ์สวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 กล่าวต่ออีกว่า นอกจากฐานเรียนรู้ที่กล่าวมาแล้ว ทางศูนย์ยังได้มีการนำปราชญ์ชาวบ้านมาให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ เช่น ปราชญ์ในเรื่องของทำบายศรีพญานาค ตามความเชื่อดั้งเดิมของคนพื้นที่,ปราชญ์การนวดหน้าทองคำเสริมบารมี,ปราชญ์การทำขนมไทย,ปราชญ์การจักสานและ ฐานเผาถ่านที่เปลี่ยนรูปแบบจากอุโมงค์ดินมาเป็นการเผาในรองแทนเพื่ออนุรักษ์อาชีพดั้งเดิมของคนบ้านช่องกระเหรี่ยงรวมทั้งนำมาแปรรูปเป็นถ่านดับกลิ่นหรือผสมเป็นสบู่ชาโค ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ซึ่งคาดว่าแผนงานในอนาคตทางศูนย์จะใช้เป็นจุดหลักสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรสำหรับนักท่องเที่ยว ที่จะได้สัมผัสวิถีชุมชนและที่พักโฮมสเตย์ โดยแท้ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ลงมือทำจริงปฏิบัติจริงด้วยตนเอง สำหรับผู้ที่สนใจสามารถมาเดินทางจากตัวเมืองกาญจนบุรีผ่านมาทางวัดถ้ำเขาปูน ผ่านวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี มาตามเส้นทางประมาณ 3 กิโลเมตรจะพบประตูทางเข้าไปวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ และวัดถ้ำพุหว้ามาตามเส้นทางประมาณ 300 เมตร ก็จะพบศูนย์เรียนรู้บ้านช่องกะเหรี่ยงอยู่ทางขวามือหรือติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางเพจบ้านช่องกระเหรี่ยงหรือติดต่อโดยตรงผ่าน 083-8259568 ผู้ใหญ่กบบ้านช่องกระเหรี่ยง./