วันที่ 22 มี.ค.65 ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์  นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ แตงโม นิดา ได้โฟนอินเข้ามาเปิดใจถึงประเด็นคดีของแตงโมที่จมน้ำเสียชีวิต โดยระบุว่า ได้เห็นข่าวแล้วเรื่องขอให้คดีแตงโม เป็นคดีพิเศษ และทางทนายเต้ ได้ปรึกษาว่าถ้าหาหลักฐานไม่ค่อยเจอ ให้ทาง DSI มาช่วยไหม แต่ยังไม่ได้ตอบอะไร เพราะคิดว่าทางตำรวจได้ทำคดีใกล้จบแล้ว สิ่งที่ทำทั้งหมดเห็นด้วยตาตัวเอง มั่นใจไว้ใจทางตำรวจว่าทำอย่างละเอียดรอบคอบ จึงมั่นใจ และไม่อยากให้หน่วยงานอื่นๆ เข้ามายุ่ง เดียวจะวุ่นวายกันไปหมด 

 

ตนไม่เห็นด้วยที่ เรื่องความหวังดีตนเข้าใจ แต่ทางตำรวจก็ทำครอบคลุมทุกจุดหมดแล้ว เกือบจะจบคดีนี้แล้ว ถ้าเข้ามายุ่งมันจะต้องเริ่มใหม่ มันจะยุ่งเหยิง ตนให้ทนายเดชาเป็นคนจัดการเรื่องกฏหมาย แม่ไม่มีสิทธิพูดกับคนอื่นหรือออกความเห็น การที่หลายคนออกมาเคลื่อนไหว แม่ก็รู้สึกดีที่มีคนมาเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ถ้ามายุ่งกับคดี ขอให้ทนายเดชาตัดสินได้เลย โดยไม่ถึงขั้นฟ้องร้อง แต่อย่ามายุ่งกับคดีแตงโม

ถ้ามีหลักฐานใหม่มาให้ทนายเดชา แม่ไม่รับแล้ว ไปมอบให้ทนายเดชา เรื่องมโนหรือป่าวเพราะมันนานมาแล้ว เรื่องข่าวลอยคอกลางน้ำ ตนเห็นอยู่ มองว่าเก่งเนอะ ว่ายน้ำครึ่งชั่วโมง ช่วยชีวิตตัวเอง เรือผ่านไปก็ไม่ช่วยชีวิต ตนรู้สึกเศร้าถ้าเป็นเรื่องจริง แต่สำหรับตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง น้องโมมีบาดแผลเยอะ มีการดื่มสุรา  เรื่องหลักฐานก็แล้วแต่ส.ส.เต้ สามารถมาเสนอทนายเดชาและจะตัดสินใจอีกครั้ง ท่านทำในนามส.ส.อยู่แล้ว ซึ่งเราได้คุยกันแล้ว โดยท่านก็บอกว่าจะทำเต็มที่  ประเด็นหาแสงกับคดีน้องโม มองว่าเรื่องหาแสงเลิกพูดดีกว่า ทุกคนมาช่วยได้ คำว่าหาแสงไม่ดี เช่นเดียวกับคำว่าเปอร์เซ็นต์เช่นกัน ขออย่าตัดคำพูดแม่ไป ยอมรับอยากให้อีกสามคนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ เพราะยังไม่ยอมพูดความจริงว่าบนเรือเกิดอะไรขึ้น