"โมลนูพิราเวียร์" ล็อตแรก 2 ล้านเม็ด ถึงไทยแล้ว ใช้รักษาผู้ป่วยโควิดระดับน้อย - ปานกลาง
18 มี.ค. 2565, 14:26
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 65 ที่คลังสินค้าสหัสวัต บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด จ.สมุทรปราการ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ตรวจรับยาโมลนูพิราเวียร์ 2 ล้านเม็ด หรือ 50,000 คอร์สการรักษา หลังประเทศไทยจัดซื้อจากบริษัท เอ็มเอสดี ประเทศไทย ซึ่งบริษัทในเครือของ บริษัท เมอร์ค แอนด์ คัมปานี อินคอร์ปอเรท ผู้ผลิตยาโมลนูพิราเวียร์
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยาโมลนูพิราเวียร์จะใช้รักษาผู้ป่วย โควิด-19 ที่มีอาการระดับน้อยหรือปานกลาง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงทำให้โรครุนแรงขึ้น เช่น ผู้สูงอายุและผู้ป่วยในกลุ่มโรคเรื้อรัง ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์และคนที่มีปริมาณเม็ดเลือดขาวต่ำ อย่างไรก็ตามหากมีจำนวนยาที่มากขึ้นอาจมีการพิจารณาใช้ยาตัวนี้กับผู้ป่วยกลุ่มอายุ 18 ปี ขึ้นไปเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จะมีการกำหนดแนวทางการกระจายยาและแนวทางการใช้ยาอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะส่งมอบยาให้ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด เป็นผู้กระจายยาในสัปดาห์หน้า ปริมาณยาที่กระจายเบื้องต้น คือ 1 ใน 3 ของยาทั้งหมด ให้รพ.ศูนย์เป็นผู้ดำเนินการ รับผิดชอบและจ่ายยาในผู้ป่วย
นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สัดส่วนของยาโมลนูพิราเวียร์ที่กระจายจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพ เนื่องจากมีสัดส่วนของผู้ป่วยติดเชื้อมากที่สุด โดยยาโมลนูพิราเวียร์จะต้องรับประทานติดต่อกัน 5 วัน รวม 40 เม็ด วันละ 8 เม็ด แบ่งเป็นเช้า 4 เม็ด และเย็น 4 เม็ด โดยอายุของยามีระยะเวลา 1 ปีครึ่ง
เกณฑ์การจ่ายยาเป็นดุลยพินิจของแพทย์ เกณฑ์คือคนที่รับวัคซีนครบ 3 เข็มอาการไม่มาก จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ แต่คนที่รับวัคซีนไม่ครบ อายุมาก 60 ปีขึ้นไป มีโรคเรื้อรัง อาการเข้าข่ายสีเหลือง ให้จ่ายยาโมลนูพิราเวียร์ เนื่องจากประสิทธิภาพของยาโมลนูพิราเวียร์ ลดอัตราการนอน รพ.และเสียชีวิต ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ช่วยให้ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับยาอื่นมีอาการดีขึ้นโดยมีผลการชี้วัดอย่างชัดเจน
“ส่วนจะมีการสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ยังต้องรออีกระยะหนึ่งก่อน เนื่องจากอำนาจการสั่งซื้อยาต้องรอมติ ครม. ขณะเดียวกันการลงนามจัดซื้อยาแพกซ์โลวิด 50,000 คอร์ส นั้นจะมีในสัปดาห์หน้า ส่วนเรื่องปัญหาการครองเตียง มีความหนาแน่นบางพื้นที่ เช่นภูเก็ต แต่หลายพื้นที่ยังคล่องตัว” นพ.สมศักดิ์กล่าว