วันนี้ ( 3 มี.ค.65 ) เวลา 16.50 น. ตามเวลาประเทศไทย (หรือเท่ากับเวลา 12.50 น. ของกรุงไนโรบี) ณ สาธารณรัฐเคนยา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงผ่านการบันทึกเทปถ้อยแถลงล่วงหน้า ในพิธีเปิดการประชุมสมัยพิเศษ เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme @50: UNEP@50) โดยนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของถ้อยแถลง ดังนี้
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ และวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาที่ไม่สมดุล และการคุกคามธรรมชาติ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า UNEP ควรยกระดับบทบาทในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยการบูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักเลขาธิการของความตกลงพหุภาคีระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม (Multilateral Environmental Agreements: MEAs) ผ่านสำนักงานในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญที่ช่วยเสริมกลไกในการบรรลุเป้าหมายในภาพรวม โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคของ UNEP ในเอเชียและแปซิฟิกมายาวนานเกือบ 50 ปี ตลอดจนเน้นย้ำความพร้อมของไทยในการสนับสนุนการดำเนินงานของ UNEP อย่างแข็งขันต่อไป

ในระดับประเทศ ไทยบังคับใช้กฎหมายและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น ใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และความรู้พื้นบ้านไทยจากปราชญ์ชาวบ้านอย่างผสมผสาน ตลอดจนได้พัฒนากฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเป็นโอกาสร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ และหวังว่า UNEP จะสนับสนุนการแสวงหาแนวทางและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงศักยภาพที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคปีนี้ ไทยจะส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งเป็นการสร้างความสมดุลของสรรพสิ่ง ควบคู่กับการใช้นวัตกรรมเพิ่มคุณค่า เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นแนวทางสำหรับการฟื้นฟูภายหลังสถานการณ์โควิด-19