"หินภูเขาไฟ" จากอินโดนีเซีย ลอยไกลถึง “หาดทุ่งวัวแล่น” แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.ชุมพร
1 มี.ค. 2565, 16:47
วันที่ 1 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้มีชาวบ้านลงไปเก็บ “หินพัมมิช” หรือที่เรียกว่าหินภูเขาไฟ ลักษณะเป็นตะกอนหินก้อนเล็ก ๆ มีรุพรุนคล้ายฟองอากาศ ก้อนสีดำเทา น้ำหนักเบา ถูกคลื่นซัดขึ้นมากองทับถมอยู่เกลื่อนบริเวณชายหาดยาวกว่า 10 กิโลเมตร ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและยืนยันว่าเป็นตะกอนหินภูเขาไฟที่ปะทุในประเทศอินโดนีเซีย และเป็นชนิดเดียวกันกับที่เป็นข่าวถูกคลื่นซัด เกยชายหาดที่ จ.สงขลา จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และจ.นครศรีธรรมราช
ชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวหลังจากที่มีคนโพสต์ลงในสื่อออนไลน์ ต่างเดินทางนำกระสอบและถุงปุ๋ยมาเก็บนำกลับบ้านเพื่อใช้ในการเกษตร และหลายรายบอกว่าจะนำไปขายต่อกิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนคนเฒ่าคนแก่อายุ 70-80 หลายคนในพื้นที่ดังกล่าว บอกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะประเทศไทยไม่มีภูเขาไฟ และคิดว่าหลายชั่วอายุคนที่ผ่านมาก็ไม่น่าจะมีคนเคยเห็นมาก่อน จึงถือเป็นบุญตาอย่างมากที่ได้เห็นหินภูเขาไฟถูกคลื่นซัดมาเกยที่ชายหาดแห่งนี้ และจะเก็บสะสมไว้เป็นของที่ระลึกด้วย
นางนิด ปานคล้าย อายุ 52 ปี เจ้าของร้านอาหารชื่อ “เจ้ติ๋มซีฟู๊ด” กล่าวว่าตนตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็สังเกตเห็นว่าทำไม่วันนี้ชายหาดทุ่งวัวแล่นกลายเป็นสีดำเหมือนคราบน้ำมันจึงเดินลงไปดูก็พบว่าเป็นก้อนหินขนาดเล็ก ๆแต่เบามากเหมือนฟองน้ำ ต่อมาได้มีคนบอกว่าเป็นหินภูเขาไฟที่ระเบิดในประเทศอินโดนีเซีย แต่ตนก็ยังแปลกใจว่าทำไมถึงลอยมาไกลได้ขนาดนี้ และตลอดทั้งวันคลื่นยังคงซัดลอยมาเกยชายหาดอยู่อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว กล่าวว่าตามที่ปรากฎภาพในสื่อออนไลน์ที่มีชาวบ้านพบวัตถุสีคล้ำคล้ายก้อนกรวดถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาเกยชายหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ตำบลสะพลี นจากการตรวจสอบเบื้อต้นเป็นหินภูเขาไฟปะทุในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วถูกคลื่นซัดมาขึ้นฝั่งในประเทศไทย และหินภูเขาไฟเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ขอให้นักท่องเที่ยวและประชาชนอย่าได้วิตก แต่อาจทำให้ชายหาดเกิดความไม่สวยงาม เมื่อเวลาผ่านไปก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ