ปธน.ยูเครนยอมรับเมืองใหญ่หลายแห่งเสียหายหนัก หลังกองทัพรัสเซียเข้าสู่กรุงเคียฟแล้ว
26 ก.พ. 2565, 10:53
วันนี้(26 ก.พ. 65) สำนักข่าวต่างประเทศ มีรายงานว่า มีการเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอการปะทะกันและเหตุระเบิดดังขึ้นในบางพื้นที่ของกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน หลังจากที่มีการสู้รบในเขตชานเมืองมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี (24 ก.พ.) ซึ่งหน่วยงานด้านการสื่อสารพิเศษของยูเครน ยอมรับว่า มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในพื้นที่ทางตะวันตก ทางใต้และย่านชานเมืองทางตะวันออก
ในช่วงหลังเวลา 20.00 น. มีเสียงระเบิดดังขึ้นใกล้กับจัตุรัสไมดาน เนซาเลชนอสติ ใจกลางเมืองหลวง ซึ่งเคยเป็นสถานที่สำคัญของการประท้วงขับไล่ผู้นำที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียในปี 2557 นายวิตาลี คลิตชโค นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวว่า มีเหตุระเบิดเกิดขึ้น 5 ครั้ง ใกล้กับโรงไฟฟ้า แต่ไม่เป็นเหตุให้ต้องตัดไฟ
โดยเมื่อคืนนี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน โพสต์คลิปวิดีโอบนเฟซบุ๊กของเขา ระบุว่า "พวกเราอยู่ที่นี่ เราอยู่ในเคียฟ เรากำลังปกป้องยูเครน" ขณะที่ในภาพวิดีโอ ประธานาธิบดีร่วมกับคณะทำงานของเขา บอกว่าพวกเขาจะปกป้องยูเครน
นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ถ้อยแถลงที่ยอมรับว่า กองกำลังรัสเซียอยู่ใกล้กับเมืองหลวง โดยเคลื่อนพลจากทางเหนือและทางตะวันออก ซึ่งเขายังคงมีการติดต่อกับผู้นำระดับโลกรวมถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ตลอดจนความช่วยเหลือยูเครนอย่างเป็นรูปธรรม
การโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้มีอาคารที่พักอาศัย โรงเรียนและสะพานได้รับความเสียหาย ซึ่งประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวว่า เมืองใหญ่หลายแห่งถูกโจมตีหนักและการโจมตีมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงเวลากลางคืน
อย่างไรก็ตาม กลาโหมสหรัฐฯ โต้แย้งว่า การรุกคืบของรัสเซียล่าช้ากว่าที่รัสเซียคาดการณ์ไว้ เพราะถูกต่อต้านในหลายพื้นที่ แต่กลาโหมรัสเซีย ระบุว่า ยึดเมืองเมลิโตโปล เมืองใหญ่ทางภาคใต้ และยึดสนามบินโฮสโตเมล ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเคียฟได้สำเร็จ เปิดทางให้รัสเซียส่งกำลังเข้าสู่กรุงเคียฟได้อย่างรวดเร็วขึ้น ทั้งตัดเส้นทางที่จะไปยังภาคตะวันตกที่เชื่อมต่อกับโปแลนด์
กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังเข้าปิดล้อมเมืองซูมี และเมืองโคโนท็อป กับมีการระเบิดสะพานแห่งหนึ่งในเมืองหลวง
ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต ยูเครนรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 137 รายและมีทหารรัสเซียเสียชีวิตหลายร้อยนาย แต่รัสเซียไม่มีการรายงานความสูญเสีย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ รายงานว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 25 รายจากการที่รัสเซียโจมตีทางอากาศ และมีประชาชนอีกประมาณ 100,000 คน หลบหนีออกจากที่อยู่อาศัยของตนเอง