กรมประมงประกาศ "ปิดอ่าวทะเลอ่าวไทย" เริ่ม 15 ก.พ. ควบคุมการทำประมงฤดูปลามีไข่
16 ก.พ. 2565, 09:34
วันนี้ (15 ก.พ.) - นายกองเอก พุทธ กฤชคงพันธ์ุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ทะเลอ่าวไทย จังหวัดชุมพร ประจำปี 2565 บริเวณเขื่อนกันคลื่นบ้านท่าเสม็ด หมู่ที่ 5 ตำบลสะพลี อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เพื่ออนุรักษ์พ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำที่มีไข่แก่ พร้อมสืบพันธุ์วางไข่และอนุรักษ์สัตว์น้ำวัยอ่อนให้เจริญเติบโตเป็นสัตว์น้ำรุ่นใหม่ สามารถฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืนและเป็นมาตรการที่สำคัญของกรมประมงที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า พื้นที่ทะเลของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่ที่สัตว์น้ำเศรษฐกิจหลายชนิด โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งจะวางไข่และเลี้ยงตัวอ่อนอย่างชุกชุมในช่วงระยะตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ถึง วันที่ 14 มิ.ย. ของทุกปี ทางกรมประมง จึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ เพื่อป้องกันมิให้มีการใช้ทรัพยากรสัตว์น้ำที่เกินกำลังการผลิตของธรรมชาติ และมิให้เกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรสัตว์น้ำอาจจะนำมาซึ่งภาวะวิกฤตได้ จึงกำหนดมาตรการทางกฎหมายโดยการออกประกาศห้ามทำการประมงด้วยเครื่องมือทำการประมงบางชนิดในพื้นที่ประมาณ 27,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจะส่งผลให้ทรัพยากรสัตว์น้ำได้รับการคุ้มครองไม่ถูกจับมาใช้ประโยชน์จนเกินสมควร และเพื่อลดการจับพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำที่มีไข่ คุ้มครองสัตว์น้ำวัยอ่อน เว้นแต่การใช้เครื่องมือประมงที่กำหนดให้ทำการประมงได้บางชนิดเท่านั้น เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำได้วางไข่แพร่ขยายพันธุ์ และสัตว์น้ำวัยอ่อนได้เลี้ยงตัวเจริญเติบโต จะเป็นการสานต่อวงจรชีวิตสัตว์น้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืน
ด้าน นายพงษ์ศรันย์ รัตนพรหม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปราม ประมงทะเลชุมพร (ศปท.ชุมพร) เปิดเผยว่า มาตรการในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ถึง 14 มิ.ย. ของทุกปี ห้ามมิให้ผู้ใดทำการประมงในพื้นที่ทะเลอ่าวไทยบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานีนั้น กำหนดระยะเวลาและพื้นที่ออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ระยะที่ 1 พื้นที่อ่าวไทย ตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงอำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครอบคลุมพื้นที่ 27,000 ตารางกิโลเมตร ห้ามทำการประมง ตั้งเเต่วันที่ 15 ก.พ. ถึง 15 พ.ค. ส่วนระยะที่ 2 ปรับลดลงมาให้ยังคงห้ามทำการประมงในระยะใกล้ฝั่ง ซึ่งเป็นแหล่งสัตว์น้ำวัยอ่อนอพยพไปยังพื้นที่เลี้ยงตัวอ่อนในอ่าวไทยตอนใน ครอบคลุมพื้นที่ 5,300 ตารางกิโลเมตร และกำหนดห้ามทำการประมงเพิ่มเติมในพื้นที่ตั้งเเต่เขาม่องไล่ ไปทางทิศเหนือ จรดอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครอบคลุมพื้นที่ 2,900 ตารางกิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. ถึง 14 มิ.ย. ของทุกปี
นอกจากนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ยังได้มอบเงินสนับสนุนองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น โครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนประมง ชุมชนละ 100,000 บาท จำนวน 8 ชุมชน จากนั้นร่วมกันปล่อยพันธุ์ กุ้งกุลาดำ 400,000 ตัว และปูม้า 1,000,000 ตัว ในอ่าวสะพลี เพื่อเพิ่มผลผลิตลงในแหล่งน้ำธรรมชาติอีกด้วย