"ศิษย์ปู่หลวงสรวง" ทำเครื่องเซ่นไหว้ใหญ่ที่สุดในโลกบูชาคุณหลวงปู่ เจ้าภาพเผยป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะที่ 4 แต่หายขาดร่างกายแข็งแรง
15 ก.พ. 2565, 08:26
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ศิษย์เอกผู้สืบทอดมรดกธรรมของหลวงปู่สรวงและเป็นพระผู้มีความกตัญญูเป็นเลิศ ได้นำคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวง ประกอบพิธีไหว้ครูบูชาคุณหลวงปู่สรวง ซึ่งพิธีนี้จัดมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 21 ปีแล้ว นับตั้งแต่หลวงปู่สรวงท่านได้ละสังขารตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 2543 เป็นต้นมา โดยในพิธีไหว้ครูบูชาคุณหลวงปู่สรวงปีนี้ นางอารียา สหวุฒิฐาณา อายุ 74 ปี พร้อมด้วย คุณกัลยารัตน์ จงวิไลเกษม พล.ร.ท.กมล – คุณอังคณา อุณหกะ และคุณสุนิจพรรณ กงทอง ได้เป็นเจ้าภาพนำคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่สรวง จัดทำพานบายศรีและเครื่องบวงสรวงอย่างสวยงามตระการตาใหญ่ที่สุดในโลก มีพญาครุฑขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัวอยู่ข้างรูปหล่อของหลวงปู่สรวง พานบายศรีสูง 16 ชั้น เครื่องเซ่นไหว้ คาว หวาน จำนวนมากจนแทบล้นเวที มีการประกอบพิธีทางศาสนา พิธีถวายพานดอกไม้ การรำบวงสรวงหลวงปู่สรวงอย่างสวยงาม การสวดมนต์บูชาคุณของหลวงปู่สรวงเป็นภาษากัมพูชา จากนั้น หลวงพ่อพุฒ ได้นำคณะสงฆ์และคณะศิษย์เวียนเทียนรอบมณฑปหลวงปู่สรวงโดยมี ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ และนายบุญชู บุดดาห์ อดีตวัฒนธรรม อ.ภูสิงห์ นำคณะพุทธศาสนิกชนศิษย์หลวงปู่สรวงร่วมพิธีในครั้งนี้จำนวนมาก โดยมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
นางอารียา สหวุฒิฐาณา อายุ 74 ปี เจ้าภาพในการทำพานบายศรีและเครื่องบวงสรวงอย่างสวยงามตระการตาใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 จึงได้มากราบขอเป็นศิษย์ของหลวงปู่สรวงที่วัดไพรพัฒนามานานกว่า 7 ปีแล้ว และได้ปฏิบัติธรรมที่วัดไพรพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่าด้วยบุญฤทธิ์ของหลวงปู่สรวงทำให้ตนหายขาดจากอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะที่ 4 ดังนั้น ตนจึงได้นำครอบครัวญาติพี่น้องมาจัดทำพานบายศรีและเครื่องบวงสรวงขนาดใหญ่นี้ขึ้นมา ใช้เงินในการจัดทำ จำนวนร่วม 400,000 บาท อีกทั้งตนได้ฝันว่า หลวงปู่สรวงมาบอกว่าให้ทำพานบายศรีและเครื่องบวงสรวง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน และมีครุฑขนาดใหญ่ 2 ตัว เพื่อขอให้ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีไม่งามโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆให้พ้นออกไปจากตนเอง ครอบครัว ญาติมิตร ศิษย์ของหลวงปู่สรวงทุกคนด้วย จึงได้จัดทำตามที่หลวงปู่สรวงมาเข้าฝันตนเอาไว้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณของหลวงปู่สรวงที่ได้ดลบันดาลทำให้ศิษย์ทุกคนอยู่เย็นเป็นสุข มีโชคลาภเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ครอบครัวอบอุ่นมาจวบจนถึงทุกวันนี้
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ศิษย์เอกผู้รับมรดกธรรมของหลวงปู่สรวง และเป็นผู้มีความกตัญญูเป็นเลิศ เปิดเผยว่า หลวงปู่สรวงท่านเป็นชาวกัมพูชาได้เดินธุดงค์เข้ามาในเขตประเทศไทย แถบชายแดนไทย – กัมพูชา ตามเทือกเขาพนมดงรัก หรือพนมดองร็ก ทางด้าน อ.ขุนหาญ และ อ.ขุขันธ์ ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชอบพักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้าน และจะธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ชาวบ้านที่มากราบไหว้ท่านจะมองท่านว่าเป็นพระผู้มีคุณวิเศษแตกต่างจากพระรูปอื่น ๆ โดยชาวบ้านจะเรียกขานท่านว่า “ลูกเอ็อวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” ซึ่งเป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบส เป็นพระผู้รักษาศีลอันบริสุทธิ์อยู่ตามถ้ำป่าเขาลำเนาไพร หลวงปู่สรวงท่านเป็นพระที่สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูงสุด ให้ความเมตตากับผู้ที่เข้าไปกราบไหว้ทุกคน ทุกคนจะได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เสมอมา จึงมีผู้มากราบไหว้หลวงปู่เป็นประจำ และกลับมาหาหลวงปู่อยู่เสมอ เรื่องราวของหลวงปู่สรวงมีเรื่องราวและอภินิหารต่างเล่าขานกันมากมายจากปากต่อปาก ทำให้ชื่อเสียงบุญฤทธิ์ของหลวงปู่สรวงเป็นที่กล่าวขานมาจนทุกวันนี้ หลวงปู่สรวงท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2543 จนถึงขณะนี้หลวงปู่ท่านได้ละสังขารเป็นเวลานานกว่า 21 ปี แต่ว่า สรีระสังขารของหลวงปู่สรวงไม่ได้เน่าเปื่อย อาตมาภาพได้เก็บรักษาสรีระสังขารของหลวงปู่ไว้ในโลงแก้ว ตั้งอยู่ภายในมณฑปที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งจะมีบรรดาศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนชนพากันมากราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่สรวงกันอย่างต่อเนื่อง และมักจะได้รับโชคตามที่ขอพรเอาไว้เป็นประจำอยู่เสมอ