ครม.รับทราบ กนง.คาดปี 65 ศก.ขยายตัวร้อยละ 3.4 -ปี 66 ขยายร้อยละ 4.7
8 ก.พ. 2565, 18:40
วันนี้ ( 8 ก.พ.65 ) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยกนง.มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน และ 22 ธันวาคม 2564 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ควรติดตามการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโรโรนา 2019 (โควิด-19) สายพันธุ์โอไมครอนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไป กนง.เห็นว่าควรคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ เนื่องจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่องจากช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ และได้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่เพิ่มขึ้นชั่วคราวจากปัจจัยด้านอุปทานจะคลี่คลายภายในปี 2565 แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการของเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด
สำหรับการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินเพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินนั้น กนง.ระบุว่า ด้านเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ามีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องแต่ชะลอลงตามลำดับ โดยปี 2565 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงตามการระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี และในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวตามการคลี่คลายของสถานการณ์การแพร่ระบาดและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ส่วนภาวะการเงินและเสถียรภาพระบบการเงินไทย โดยภาวะการเงินไทยโดยรวมยังผ่อนคลาย ภาคธุรกิจสามารถระดมทุนได้อย่างต่อเนื่อง
แต่ความเสี่ยงด้านเครดิตยังเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และเสถียรภาพระบบการเงินยังเปราะบาง โดยเฉพาะฐานะทางการเงินของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดหลายระลอก ซึ่งอาจชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะต่อไป จึงต้องติดตามและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความเสี่ยงระยะปานกลางที่อาจเกิดขึ้นภายใต้ความไม่แน่นอนของการระบาดของโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้อและอาจรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้กนง.ยังได้คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของไทย ประกอบด้วย ในปี 2565 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.4 และปี 2566 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.7 จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ขณะที่มูลค่าการส่งออกในปี 2565 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.51 และปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.9
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวคาดว่าปี 2565 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยว5.6 ล้านคน และปี 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 20 ล้านคน ด้านการบริโภคภาคเอกชนปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.6 และปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.8 ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.4 และปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 5
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเป้าหมายตลอดช่วงประมาณการโดยปี 2565 ปรับเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 1.7 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานมีแนวโน้มสูงขึ้นชั่วคราวตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และปี 2566 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 1.4