"บิ๊กตู่" ปลื้ม! คนละครึ่งเฟส 4 กระตุ้นเศรษฐกิจ คาด 3 เดือนสะพัดกว่า 7 หมื่นล.
6 ก.พ. 2565, 17:33
วันนี้ ( 6 ก.พ.65 ) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันแรกเมื่อวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ความคืบหน้าการใช้จ่ายล่าสุด (ข้อมูล วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565) มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 24.99 ล้านราย และมียอดใช้จ่ายรวมทั้งหมด 8,886.93 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้ 1) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม15.88 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 7,084.1 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 3,584.4 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 3,499.7 ล้านบาท 2) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 8.54 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,691.26 ล้านบาท และ 3) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 0.57 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 111.57 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ว่า เป็นไปตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีวัตถุประสงค์ชัดเจนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ประกอบการรายย่อยทุกระดับมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้ กระทรวงการคลังได้ตรวจสอบพบหลักฐานผู้ประกอบการกระทำความผิดเงื่อนไขโครงการฯ ในลักษณะไม่มีการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริง โดยได้มีการระงับสิทธิผู้ประกอบการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และจะเข้าสู่กระบวนการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ของผู้ไม่หวังดีที่เสนอจะช่วยหาประโยชน์จากโครงการฯโดยไม่ได้ทำการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริงอย่างเด็ดขาดเพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด ด้วย
“โครงการคนละครึ่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานราก ไม่ได้มีลักษณะของการแจกเงินแต่เป็นการสนับสนุนให้ประชาชนส่งต่อกำลังซื้อไปยังผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ฝากเตือนประชาชน-ร้านค้า ใช้จ่ายโครงการตามที่กำหนดไว้ ภาครัฐมีระบบการติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบการกระทำความผิดจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้อีก และมีโทษตามกฎหมายด้วย ทั้งนี้ โครงการฯ เฟส 4 ใช้จ่ายได้ 3 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายนนี้ จะสามารถเพิ่มเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกเกือบ 7 หมื่นล้านบาท” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว