จับตัว ! "ชายวัยฉกรรจ์" ใส่เสื้อแกร็บไบค์ บุกจี้ชิงทอง 80 บาท ในห้างบิ๊กซีสาขาชุมพร
22 พ.ย. 2564, 09:56
จากกรณีคนร้ายเป็นชายวัยฉกรรจ์อายุปราณ 30-40 ปี ใส่เสื้อแกร็บไบค์ใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวปล้นทองรูปพรรณหนัก 80 บาท ที่ร้านทองเยาวราช แยกเป็นทองของร้าน 75 บาท ทองรูปพรรณที่ลูกค้านำมาจำนำอีก 5 บาท รวมมูลค่าทองคำทั้งหมดราคา 2,481,750 บาท ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาชุมพร ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะลงมือมีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ หลังก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 เอส สีน้ำเงิน-เทา ไม่ติดแผ่นป่ายทะเบียนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 ต.ค.64 ที่ผ่านมา จนเวลาผ่านไปนานกว่า 1 เดือน แล้วคนร้ายยังลอยนวล ตามข่าวที่ได้เสนอแล้วนั้น
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 21 พ.ย.64 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร รรท.ผกก สภ.เมืองชุมพร พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร พร้อมชุดจับกุมแถลงผลการจับกุมคนร้ายคดีจี้ชิงทองในห้างบิ๊กซี สาขาชุมพร ได้แล้วคือ นายดล อายุ 38ปี ไวยาวัจกร วัดเขาแก้ว หมู่ 5 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จากการตรวจค้นในบ้านของผู้ต้องหาเบื้องต้นพบตั๋วจำนำจากร้านทองนอกพื้นที่จำนวน 13 ใบ รวมน้ำหนักทองคำรูปพรรณที่จำนำกว่า 20 บาท และสร้อยคอ 21 เส้น น้ำหนัก 21 บาท พร้อมกับแหวน ต่างหู สร้อยคอ ของลูกค้าที่นำมาจำนำอีก 5 บาท หมวกโม่งไหมพรม สีดำและสีเทา 2 ใบ ซุกซ่อนอยู่ในบ้านของผู้ต้องหา เลขที่ 111 หมู่ 5 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ทั้งนี้ พฤติกรรมการจับกุมสืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางทางที่คนร้ายขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปสิ้นสุดหายที่บริเวณใกล้กับวัดปากแพรก หมู่ 2 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ ซึ่งอยู่ห่างจากวัดเขาแก้ว หมู่ 5 ตำบลนากระตามประมาณ 10 กิโลเมตร ส่วนด้านหลังของวัดทั้ง 2 แห่ง มีลำคลองไหลผ่าน จึงได้จัดชุดประดาน้ำออกค้นหารถจักรยานยนต์ ช่วงระหว่างวัดปากแพรกถึงวัดเขาแก้ว ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจจะนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปจมทิ้งไว้ในคลองดังกล่าว
จากการค้นหารถจักรยานยนต์มาจนถึงคลองใกล้หลังวัดเขาแก้ว เจ้าหน้าที่สังเกตว่าทั้งเจ้าอาวาสวัดและพระลูกวัดเขาแก้ว รวม 4 รูป มีพฤติกรรมน่าสงสัย เข้าไปอยู่ในกุฎิไม่ออกมาดูและให้ข้อมูลใด ๆกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับมีชาวบ้านแจ้งว่าวัดดังกล่าวทั้งเจ้าอาวาสและพระลูกวัดมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากนั้นตำรวจชุดสอบสวนภูธรจังหวัดชุมพร และชุดสืบสวนภูธรภาค 8 จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม
กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย.64 พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร จึงสนธิกำลังทั้งตำรวจท้องที่ ตำรวจ ปปส.และฝ่ายปกครองเข้าตรวจค้นภายในวัดเขาแก้ว พบในกุฎิของพระนันทศักดิ์ อายุ 35 ปี เจ้าอาวาสวัดมียาบ้า 10 เม็ด พรอมอุปกรณ์เสพ และตรวจค้นภายในกุฏิอีก 3 กุฎิ ที่อยู่ติดๆกันกับกุฎิของเจ้าอาวาส เป็นกุฎิของพระกฤษฎา อายุ 29 ปี กุฏิของพระธีระพัฒน์ อายุ 21 ปี และกุฏิของพระจีรศักดิ์ อายุ 28 ปี แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบยาเสพติด พบเพียงอุปกรณ์การเสพยาเสพติดวางอยู่ จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวทั้งเจ้าอาวาส และพระลูกวัดทั้งสามรูปไปตรวจปัสสาวะ ซึ่งปรากฏว่าทั้งเจ้าอาวาส พระลูกวัด รวม 4 รูป และ นายวัชรินทร์ ผลออกมาเป็นสีม่วงทุกคน โดยทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าได้ซื้อยาบ้ามาเสพกันจริง จึงนำตัวไปสึกและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของวัดเขาแก้ว ปรากฏว่ามีการแก้ไขตัวเลขในสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร เมื่อนำไปตรวจสอบกับธนาคารมีเงินฝากในบัญชีหายไป 1,070,000 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดหมื่นบาท) ต่อมาวันที่ 19 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่จึงเรียก นายดล อายุ 37 ปี ไวยาวัจกร วัดเขาแก้ว มาสอบสวนเพราะเป็นผู้รับผิดชอบถือบัญชีและเป็นผู้เบิกจ่ายเงินวัด โดยนายดลรับสารภาพว่าได้นำเงินวัดไปใช้ส่วนตัวจริง พร้อมกับควบคุมตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลวัดมากนัก
จากการตรวจค้นบ้านบ้านนายดลไวยากรวัดเขาแก้วเข้าหน้าที่ถึงกับผงะเมื่อพบตั๋วจำนำจากร้านทองนอกพื้นที่จำนวน 13 ใบ รวมน้ำหนักทองคำรูปพรรณกว่า 20 บาท และทองรูปพรรณอีกจำนวนกว่า 20 บาท ซุกซ่อนอยู่ใต้หลังคาบ้าน ซึ่งเป็นทองของร้านทองเยาวราช ภายในห้างบิ๊กซี สาขาชุมพร ที่ถูกปล้นไป แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงเค้นสอบ จนนายดลยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือบุกเดี่ยวเพียงลำพังคนเดียว โดยวางแผนก่อเหตุ 1 สัปดาห์ ส่วนรถจักรยานยนต์ได้ไปลักมาจากพื้นที่ตำบลใกล้เคียง แล้วสั่งซื้อเสื้อแกร็บไบค์มาใส่ ส่วนอาวุธเป็นท่อนเหล็กยาว 1 ฟุต ใส่ในถุงกระดาษอ้างเป็นปืน ขณะบุกจี้ชิงทองในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาชุมพร เมื่อวันที่ 20 ต.ค.64 ที่ผ่านมา เนื่องจากตนเองติดการพนันคาบาราออนไลน์อย่างหนักจนต้องโกงเงินวัดมาเล่น และวางแผนบุกจี้ชิงทองคำในห้างบิ๊กซีเพื่อจะนำเงินมาใส่บัญชีคืนให้วัดจนมาถูกจับดังกล่าว
ส่วนทองรูปพรรณของกลางอีกจำนวนหนึ่งผู้ต้องหายังไม่ยอมเปิดปากบอกอ้างว่าจี้ชิงมาได้เท่าที่ตำรวจตรวจไม่ปักใจเชื่อ ก่อนจะส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยปิดบังใบหน้าหรือทำด้วยประกาศอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำใบหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ 197/2564 ลงวันที่ 20 พ.ย.64 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถาน ตามกฎหมายต่อไป