จากเหตุการณ์ นส.มลดา บุญเสรฐ สาววัย 24 ปี ถูกไฟช็อตขณะทำงานก่อสร้าง ที่ไซท์งานหน้าโรงพยาบาลตราด วันที่ 24 เมษายน 2561 ปีที่ผ่านมา คืบหน้าในเรื่องนี้ ขณะนี้เวลาผ่านไปนานถึง 1 ปี 4 เดือนแล้ว แต่อาการของ นส.มลดา ก็ยังไม่ดีขึ้น ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตราด และไม่มีความหวังว่า อาการบาดเจ็บจากการประสบอุบัติเหตุจะหายเป็นปกติหรือไม่ อย่างไร แต่ที่แน่ๆก็คือ ครอบครัวของนส.มลดา ก็พลอยได้รับผลกระทบตามไปด้วย 

โดยนางกชพร ริยะขันธ์ อายุ 38 ปี ผู้เป็นมารดา เปิดเผยว่า หลังจาก นางสาวมลดา บุตรสาวของตน ประสบอุบัติเหตุจนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานกว่า 1 ปี 4 เดือน นั้น ครอบครัวของตนเองก็ได้รับความลำบากเป็นอย่างมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของ นางสาวมลดา เอง และยังมีบุตรสาวของ นส.มลดาอีก 1 คนที่ต้องใช้จ่ายเป็นค่าศึกษาเล่าเรียน ซึ่งสามีของนส.มลดาได้แยกทางกันไปก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุแล้ว และตนเองยังต้องให้ลูกสาวอีกคนลาออกจากงานมาเฝ้าไข้ นส.มลดา นางกชพร ผู้เป็นแม่เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ครอบครัวลำบากมากอยากให้ทางโรงพยาบาลตราดเร่งรักษาตัวลูกสาวของตน ถ้ารักษาไม่ได้จริงๆอยากให้ส่งต่อไปรักษาที่อื่นเพื่อให้อาการบาดเจ็บหายเป็นปกติเสียที

สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 ขณะนางสาวมลดา กำลังใช้เครื่องเชื่อมเหล็กเพื่อติดตั้งป้าย ไซต์งานหน้า รพ.ตราด เกิดไฟฟ้าลัดวงจร จนทำให้นางสาวมลดา ถูกไฟฟ้าช็อตจนหมดสติภายในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาล นางสาวมลดา ก่อนนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลตราด ในเวลาต่อมา 

นายแพทย์เกตุวุฒิ อธิเวส นายแพทย์ที่รับทำการรักษา นางสาวมลดา โดย นายแพทย์เกตุวุฒิ บอกว่า นางสาวมลดา ถูกไฟช็อตจนเป็นแผลไหม้ ตั้งแต่ใต้ราวนมไปจนถึงปลายเท้า เป็นความรุนแรงในระดับที่ 3 คือ บาดแผลไหม้จะลึกลงไปจนทำลายหนังกำพร้า และหนังแท้ทั้งหมด รวมทั้งต่อมเหงื่อขุมขนและเซลล์ประสาทบาดแผลจะมีลักษณะขาว ซีด เหลือง หรือดำ หนาแข็งเหมือนแผ่นหนัง แห้ง และกร้าน โดยบาดแผลประเภทนี้จะไม่หายเอง จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดปลูกผิวหนัง นอกจากนี้จะมีการดึงรั้งของแผลทำให้ข้อยึดติด ถือเป็นบาดแผลที่ร้ายแรง หลังจากรักษานานอยู่ 8 เดือน นางสาว มลดา ต้องเปลี่ยนแพทย์จาก นายแพทย์เกตุวุฒิ อธิเวส ที่เกษียณอายุราชการ  โดยมี นายแพทย์มงคล แดงเอียด รักษาต่อ     

ซึ่งจนบัดนี้ นส.มลดา และครอบครัว ยังมืดมนกับการรักษา ที่ต้องรอคอยความหวังว่า รพ.ตราดจะมีวิธีการรักษาอย่างไรต่อไป เพราะขณะนี้ นอนรักษามานานแล้ว จนครอบครัวเดือดร้อน ไม่เป็นอันทำงานหารายได้ และภาระในครอบครัวมีมากมาย ทำให้ครอบครัวเครียดและเดือดร้อนไปตามกัน อยากให้รพ.ตราดช่วยหาวิธีการรักษาที่ดีกว่า การนอนรอความหวังไปวันๆแบบนี้