เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สปสช.เขต 10 เข้าช่วยเหลือครอบครัว "พ่อเฒ่าวัย 68 ปี" ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกเสียชีวิต


9 พ.ย. 2564, 10:17



สปสช.เขต 10 เข้าช่วยเหลือครอบครัว "พ่อเฒ่าวัย 68 ปี" ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกเสียชีวิต




จากกรณีที่นายทนงศักดิ์ อายุ  46 ปี และนายธนกฤต อายุ 42 ปี พร้อมด้วยครอบครัวญาติพี่น้อง ได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษว่า นายสุรัตน์   ศรปัญญา  อายุ  68 ปี ซึ่งเป็นพ่อของพวกตนได้เสียชีวิตอย่างกะทันหัน ทั้งที่พ่อของพวกตนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงไม่ได้มีอาการป่วยไข้มาก่อนเลย แต่เมื่อพ่อไปฉีดวัคซีนเข็มแรกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้พ่อของตนมีอาการป่วยไข้และเสียชีวิตในเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น  โดยได้นำเอาหลักฐานการฉีดวัคซีนเข็มแรก และเอกสารต่างๆ มาแสดงให้สื่อมวลชนได้ทราบ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางมลุลี   แสนใจ   รอง ผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 10 (สปสช.)พร้อมด้วย นพ.อดุลย์ โบจรัส  ผอ.รพ.กันทรารมย์และคณะ ได้เดินทางมาพบกับนางแหวน  อายุ  66 ปี  ภรรยาของนายสุรัตน์  อายุ 68 ปี ซึ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกแล้วเสียชีวิต เพื่อเยี่ยมปลอบใจพร้อมทั้งสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นรวมทั้งให้นางแหวนได้กรอกข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับเงินเยียวยาจากการที่นายสุรัตน์ ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 และได้นำเอาเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ไปประกอบการประชุมพิจารณาอนุมัติเงินช่วยเหลือต่อไป

นางแหวน  อายุ  66 ปี  กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนเสียใจมากที่ต้องสูญเสียสามี ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวไปอย่างกะทันหันแบบนี้ ปกติแล้วนายสุรัตน์  สามีของตนจะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงมาก จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 64 ที่ผ่านมาได้ไปฉีดวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 เข็มแรก และต่อมาได้มีอาการเป็นไข้อาเจียนและเสียชีวิตในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ได้ฉีดวัคซีนไปแล้ว  หากไม่ฉีดวัคซีนสามีของตนคงไม่ต้องเสียชีวิตอย่างกะทันหันแบบนี้

นางมลุลี แสนใจ รอง ผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 10 (สปสช.) กล่าวว่า ทราบว่าทางหน่วยบริการได้เอาใบคำร้องมาให้กับทางญาติของผู้เสียชีวิตในการที่จะเขียนรายละเอียด ซึ่งในวันนี้ทาง สปสช.จะได้รับใบคำร้องไปด้วยเลย พร้อมทั้งหลักฐานการรักษาพยาบาลทั้งในส่วนของโรงพยาบาลกันทรารมย์และโรงพยาบาลศรีสะเกษที่ผู้เข้ารับบริการไปมีประวัติการรักษา ซึ่งจะได้นำเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมโดยกำหนดจัดประชุมคณะกรรมการในวันที่ 18 พ.ย. 2564 พอคณะกรรมการประชุมพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ก็จะโอนเงินให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตภายในไม่เกิน 5 วันทำการ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ท่านเลขาธิการ สปสช.ได้ให้ความสำคัญในการที่จะดูแลช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนจำนวนเงินที่จะได้รับเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการในการพิจารณา ซึ่งถ้าเจ็บป่วยเล็กน้อยจะได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 10,000 บาท  กรณีที่เสียชีวิตถ้าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้คณะกรรมการก็จะพิจารณาให้การช่วยเหลือจำนวนเงิน 400,000 บาท ตามที่มีการกำหนดไว้ในหลักเกณฑ์ ซึ่งหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินค่าชดเชยตรงนี้ เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นไม่มีการพิสูจน์ถูกผิด อันดับแรกก็เพื่อที่จะช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหาย ส่วนใหญ่แล้วเรื่องของวัคซีนมันยังไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าเป็นวัคซีนที่ทำให้เสียชีวิตจริงหรือไม่ หลักเกณฑ์ของ สปสช.ส่วนใหญ่ก็จะพิจารณาช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนซึ่งจะต้องอยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง จริงๆแล้ววัคซีนโควิดเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากไม่อยากให้ประชาชนกลัวในเรื่องของการฉีดวัคซีนเพราะว่าอย่างไรก็ตาม หากได้รับวัคซีนจะช่วยป้องกันในการเกิดโรคโควิดหรือว่าหากได้รับเชื้อโรคก็จะทำให้ไม่เกิดอาการที่รุนแรง เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่ผู้ที่สุขภาพดีก็จะไม่เป็นอะไรเลย



นพ.อดุลย์  โบจรัส  ผอ.รพ.กันทรารมย์ กล่าวว่า โดยประวัติของผู้ป่วยที่ทางโรงพยาบาลกันทรารมย์ได้ทำการตรวจสอบที่อยู่ในใบประวัติของโรงพยาบาล ข้อมูลบ่งบอกว่าคนไข้รายนี้ที่เสียชีวิตมีประวัติระบุว่าเคยผ่าตัดถุงน้ำดี ท่อน้ำดีอุดตันซึ่งโดยประวัติก็ได้รับแค่นั้น ซึ่งทางโรงพยาบาลกันทรารมย์และสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เป็นหน่วยงานกลางที่จะได้รวบรวมข้อมูลส่งให้ทาง สปสช.เขต 10 ได้ทำการพิจารณาให้เงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 อีกครั้งหนึ่งต่อไป

นายธนกฤต อายุ 42 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิด กล่าวว่า ตนต้องขอขอบพระคุณทาง สปสช.เขต 10 และ นพ.อดุลย์  โบจรัส ผอ.รพ.กันทรารมย์ รวมทั้งทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ได้เข้ามาให้การดูแลช่วยเหลือตนในครั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจมากที่ต้องสูญเสียพ่ออย่างกะทันหันแบบนี้  หากพ่อไม่ไปฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกพ่อก็คงจะไม่เสียชีวิต  การที่ครอบครัวของตนได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการจะทำให้ครอบครัวของตนได้รับการเยียวยาบรรเทาความเศร้าโศกเสียใจ แต่หากเลือกได้ตนขอชีวิตพ่อของตนคืนมาเพื่อจะได้เป็นเสาหลักของครอบครัวตลอดไป







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.