22 ต.ค. 64 หลังจากที่ฝนตกในหลายพื้นที่ ในจังหวัดชัยภูมิ ทำให้น้ำป่า น้ำในแม่น้ำชี น้ำจากลำน้ำสาขา รวมทั้งเขื่อนลำประทาวทั้งเขื่อนบน และเขื่อนล่าง ได้ล้นออกทางระบายน้ำ ไหลลงสู่ลำประทาวเข้าสู่ตัวเมืองชัยภูมิ หลังจากที่ไม่ฝนตกมาแล้ว 3 วัน น้ำป่าที่ไหลเข้าตัวเมืองชัยภูมิมีปริมาณลดลง เทศบาลเมือ เดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่กว่า 20 เครื่อง สูบน้ำระบายน้ำออกจากตัวเมืองต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้น้ำที่ผุดมาจากท่อระบายน้ำเอ่อท่วมสูงในย่านเศรษฐกิจถนนสายต่าง ๆ ในเมืองชัยภูมิ ทั้งบริเวณ 4 แยกโรงเลื่อยเก่า สามแยกวัดชัยประสิทธิ์ สี่แยกหนองบ่อ น้ำท่วมอยู่ตามถนนได้ลดลงเกือบหมดแล้ว ซึ่งน้ำที่สูบออกจากตัวเมืองชัยภูมิ มีเส้นทางไหลไปรวมกับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำชี ในเขต ต.บ้านค่าย ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนประขาขน ในพื้นที่ 3 ตำบล ทั้ง ต.บ้านค่าย ต.หนองนาแซง และ ต.บุ่งคล้า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

พื้นที่การเกษตร บ้านเรือนชาวบ้านได้รับผลกระทบเป็นรอยที่ 2 ในปีนี้ โดยน้ำท่วมครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2564 ส่วนในระลอกที่ 2 น้ำได้ท่วมพื้นที่ 3 ตำบล มาแล้ว 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา มีพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 3 หมื่นไร่ บ้านเรือนถูกน้ำท่วมมากกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมเสียหายหนักสุด ที่บ้านขวาน้อย หมู่ 1 ต.บุ่งคล้า อ.เมือง ยังคงมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ปิดทางเข้าออกหมู่บ้านทั้งหมด การสัญจรไปมา เข้าออกหมู่บ้านลำบาก ต้องใช้เรือท้องแบนในการเข้าออกเท่านั้น หรือใช้รถบรรทุกสูงเป็นพาหนะเข้าออกหมู่บ้าน อีกทั้งระดับน้ำยังไหลทะลักเข้าพื้นที่โรงเรียนบ้านขวาน้อย ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้าน พื้นที่ในโรงเรียนน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โต๊ะ เก้าอีไม้ที่อยู่ชั้นล่างอาคารเรียนแช่น้ำเสียหายทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์การเรียนการสอนที่อยู่ในห้องเรียน ชั้นล่างอาคารเสียหายจำนวนมาก และมีรายงานว่ามีผู้ขับรถกระบะฝ่าสายน้ำเข้าหมู่บ้าน แต่ไม่สามารถสู้แรงกระแสน้ำได้ ซัดเอารถกระบะตกถนนไปแล้ว โชคยังดีที่ผู้ขับขี่เอาชีวิตรอดออกมาได้

ทั้งนางบุญชุบ คำพา อายุ 72ปี บ้านเลขที่ 300 หมู่ที่ 1 บ้านขวาน้อย ตำบลบุ่งคล้า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ และนางทองย้อย คุ้มถิ่น อายุ 76ปี บ้านเลขที่ 388 หมู่ที่ 1 บ้านขวาน้อย ตำบลบุ่งคล้า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เล่าว่า น้ำได้ท่วมถนนทางเข้าออกบ้านเป็นรอบที่ 2 หลังรอบแรกนั้นท่วมถึงตัวบ้าน ส่วนรอบนี้ท่วมบริเวณหน้าบ้าน แต่ก็ยังถือว่ารอบนี้ยังไม่หนักเท่ารอบที่ผ่านมา แต่ก็สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอันมาก ออกไปไหนไม่ได้เลยต้องรอให้คนมารับ หรือต้องรอการช่วยเหลือเท่านั้น