ทนายเตรียมยื่นประกันตัว "อดีตผกก.โจ้" หลังคําสั่งศาลไต่สวน ถุงคลุมหัว 6 นาที
21 ต.ค. 2564, 09:26
จากกรณีมีคลิปฉาวเผยแพร่ในสื่อโซเชียล นาย จิระพงศ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ถูกตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดหรือชุด 05 สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวรีดข้อมูลจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ต่อมา บช.ภ.6 มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ “ผู้กำกับโจ้” ออกจาก พื้นที่ เพื่อให้จเรตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริงจนพบว่าคดีมีมูล กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับผู้กำกับโจ้พร้อมลูกน้อง รวม 7 คนในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นฯโดยใช้กําลังประทุษร้าย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานและโหดร้ายฯ” ทั้งหมดถูกจับได้ ถูกให้ออกจากราชการ อยู่ระหว่างฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ความคืบหน้าของคดี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ต.ค. ศาลจังหวัดนครสวรรค์อ่านคำสั่งคดีชันสูตรการเสียชีวิต หมายเลขดำ ช.7/2564 ที่พนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ ยื่นคำร้องขอไต่สวนการตายของนายจิระพงศ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 150 ซึ่งมีการกล่าวหาว่าการตายของนายจิระพงศ์ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 เวลา 13.20 น. เกิดขึ้นโดยการกระทำของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว เจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่และเสียชีวิตในระหว่างอยู่ในความควบคุมเจ้าพนักงาน ซึ่งปฏิบัติราชการตามหน้าที่หรือไม่
โดยขอให้ศาลจังหวัดนครสวรรค์ทำการไต่สวน และทำคำสั่งตาม ป.วิ.อ.มาตรา 150 วรรคห้า แสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด กับเหตุ กับพฤติการณ์ที่ตาย และหากตายโดยคนทำร้าย ใครเป็นผู้กระทำเท่าที่จะทราบได้ โดยศาลจังหวัดนครสวรรค์ ได้ทำการไต่สวนแล้ว จึงมีคำสั่งว่าผู้ตาย คือ นายจิระพงศ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ตายที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 เวลา 13.20 น. เหตุและพฤติการณ์ที่ตายคือ ขาดอากาศหายใจ เนื่องจากถูก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล กับพวก ร่วมกันใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะเป็นเวลานานมากกว่า 6 นาที ในขณะที่สืบสวนขยายผลในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ อันเป็นการเสียชีวิตในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติราชการตามหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งของศาลที่ชี้ถึงผลชันสูตรศพของนายจิระพงศ์ครั้งนี้ ตำรวจจะต้องนำสำเนาสำนวนคำสั่งคดีไปให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีสอบสวน และต้องแจ้งพนักงานอัยการเข้าร่วมสอบสวนด้วย เมื่อสอบสวนแล้วจะต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเท่านั้นเป็นผู้สั่งคดีว่าฟ้องหรือไม่ฟ้อง ยังมิใช่ผลคำพิพากษา ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการฝากขังครั้งที่ 3 ของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของอดีต ผกก.โจ้ กล่าวว่า ศาลชี้ในคดีชันสูตรว่าการเสียชีวิตเกิดขึ้นในการควบคุม และชี้สาเหตุการเสียชีวิตไม่เกี่ยวกับคดีที่กองปราบปรามดำเนินการ คดีนั้นต้องไปพิสูจน์เจตนากันต่อไป ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนกับกระแสข่าวมีรายละเอียดต่างกัน เมื่อศาลจังหวัดนครสวรรค์สั่งในสำนวนชันสูตรแล้ว
ขั้นตอนต่อไป อัยการจะส่งให้ตำรวจเพื่อให้ตำรวจนครสวรรค์นำไปรวมกับสำนวนคดีที่กองบังคับการปราบปราม หลังจากนั้นเป็นกระบวนการยื่นฟ้องตามกระบวนการยุติธรรม ในส่วนของลูกความของตน หรืออดีต ผกก.โจ้ ต้องต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ขณะนี้เตรียมยื่นประกันตัวเพื่อออกมาพิสูจน์ความจริงต่อไป
วันเดียวกัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า ผลการไต่สวนดังกล่าวที่ออกมาถือเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี หลังจากนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผกก.โจ้ และพวก ในข้อหาตามมาตรา 172 “เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ”