จับกุมแรงงานเมียนมา 10 ราย ยอมจ่ายค่าหัวคิวคนละ 16,000 - 20,000 บาท พาลอบเข้าไทย
28 ก.ย. 2564, 17:04
วันนี้ 28 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า โดย มว.ปชด.เพิ่มเติมที่ 1 (บ้องตี้) จัดกำลัง ร่วมกับ ร้อย ตชด.136, จนท.สภ.ไทรโยค, ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค และ จนท.สาธารณสุข อ.ไทรโยค ทำการจับกุมผู้กระทำผิด ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต ( พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ) และ ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 สัญชาติเมียนมา จำนวน 8 คน ( ช.4, ญ.4 คน ) และได้ตัวผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือซ่อนเร้นนำพา จำนวน 2 คน รวม 10 คน พร้อมของกลาง รถยนต์ จำนวน 2 คัน บริเวณจุดตรวจชุมชน บ.บ้องตี้ล่าง หมู่ที่ 2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จว.ก.จ. พิกัด NR 000594
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งหมดได้เดินทางมาจาก จว.พะโค และ จว.ทวาย สมม. โดยผู้หลบหนีเข้าเมืองจะลักลอบข้ามแดนเพื่อไปทำงานที่ จว.กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีค่าจ้างให้กับผู้นำพาชาวเมียนมา เป็นเงิน จำนวน 16,000 20,000 บาท / คน และได้จ่ายค่านำพาไปแล้วจำนวน 4 คน ส่วนอีก 4 คน จะจ่ายเมื่อถึงปลายทาง จนท.ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ต้องหาเบื้องต้น ไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส และได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ไทรโยค เพื่อสอบสวน / ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และปัญหาแรงงานเมียนมา ที่เข้ามาทุกวันเวลานี้ สาเหตุเพราะทางหน่วยงานภาครัฐหย่อนยาน โดยเฉพาะชายแดนทั้งสังขละบุรี บ้านพุน้ำร้อนอำเภอเมือง เป็นเพราะทางฝ่าย จนท.รัฐไม่จริงจัง หากผู้ใดมีเส้นสายสามารถผ่านได้ มีทั้งแรงงาน การค้าอาวุธสงครามให้กับชนกลุ่มน้อย ซึ่งมีการนำอาวุธสงครามจากพื้นที่ภาคตะวันออกผ่านเข้ามาขายกับเพื่อนบ้าน หากไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็น คนธรรมดาทำอะไรไม่ได้ ผ่านเข้า-ออกไม่ได้แน่นอน โดยเฉพาะฝ่ายปกครอง ตนเองมีหลักฐานการซื้อขายอาวุธกับเพื่อนบ้านทุกขั้นตอน หากภาครัฐเอาจริงตามนโยบายของรัฐบาลปัญหาเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นมาได้./