เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายอุทัย ขันทอง  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี สาขาทองผาภูมิ ได้รับแจ้งว่ามีผู้สูญหายจำนวนหนึ่งคน ทราบชื่อภายหลังว่า นายอดิศักดิ์ อายุ 52 ปี ได้ออกจากบ้านแล้วไม่กลับ ญาติได้ออกตามหาพบเพียงรองเท้า ของนายอดิศักดิ์ ถูกถอดไว้บนสะพานบ้านหินแหลม คาดว่าน่าจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย จึงได้ลงพื้นที่จัดทีมค้นหา พร้อมรายงานนายอำเภอทองผาภูมิ ให้รับทราบและ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมค้นหาประกอบด้วย 1.เทศบาลตำบลท่าขนุน 2. มูลนิธิกู้ภัยกาญจน์ 3. มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ 4. เขื่อนวชิราลงกรณ 5.อาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 6.เจ้าหน้าที่ประจำอำเภอฯ

 

ต่อมานายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอทองผาภูมิ ได้สั่งการให้ ปลัดอาวุโส ปลัดอำเภอทองผาภูมิ นำกำลังสมาชิก อส. พร้อมปภ.ทองผาภูมิ ร่วมกับเทศบาลตำบลท่าขนุน และทีมค้นหาของหน่วยกู้ภัย มูลนิธิกู้ภัยกาญจน์ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ลงพื้นที่บริเวณสะพานหินแหลม หมู่ที่ 5 ตำบลท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 

โดยเจ้าหน้าที่ได้ร่วมปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย ด้วยการดำน้ำหา รวมทั้งนั่งเรือท้องแบนของ มูลนิธิ รวมทั้งเรือของชาวบ้าน โดยใช้เจ้าหน้าที่ในการค้นหากว่า 50 คน ท่ามกลางการเฝ้าคอยของภรรยา ลูก รวมทั้งญาติและเพื่อนบ้านของนายอดิศักดิ์  แต่ก็ไม่พบร่างของนายอดิศักดิ์

 

ซึ่งการค้นหาล่วงเลยมาถึง  23.00 น. จึงต้องยุติการค้นหา เนื่องจากในพื้นที่มีฝนตกทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อย ได้สูงขึ้น รวมถึงจากการระบายน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ ด้วย

 

ต่อมาในวันนี้มีทีมนักประดาน้ำ ได้กลับมาค้นหาอีกครั้ง ทั้งการดูหาใต้น้ำ การล่องเรือค้นหาห่างจากจุดออกไปหลายกิโลเมตร รวมทั้งการเดินเท้า ลงไปจากสะพาน 3+4 กม. แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่วี่แววว่าจะพบ  เบื้องต้นคาดว่าร่างของนายอดิศักดิ์  อาจติดอยู่ใต้น้ำตรงโค้งน้ำหลังวัดปรังกาสี  ซึ่งอยู่ใต้สะพานลงไปประมาณ 300 เมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีลักษณะเป็นถ้ำใต้น้ำ รวมทั้งมีซอกหินน้อยใหญ่มากมาย ซึ่งที่ผ่านมาหากมีเหตุการณ์คนจมน้ำเหนือขึ้นไป ก็มักจะพบว่าลอยมาติดตรงบริเวณนี้ ซึ่งปัญหาของการค้นหาใต้น้ำตอนนี้ ประสบปัญหาเรื่องของน้ำที่ขุ่น เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่ด้านบนในช่วงคืนที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างไรเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการค้นหาร่างของผู้สูญหายจนกว่าจะพบ เพื่อให้ญาติได้นำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

 

ด้านภรรยานายอดิศักดิ์  เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สามีของตนเองป่วยด้วยโรคหลายโรค รวมทั้งโรคอาการซึมเศร้า ที่ผ่านมาต้องคอยดูแลไม่ห่าง ซึ่งก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าหลังจากทานข้าวเช้าแล้ว ตนเองทำงานอยู่ในบ้านตามปกติ ซึ่งในเวลาต่อมาญาติสามีโทรมาบอกว่า นายอดิศักดิ์ มาเที่ยวที่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านตนเองมากนัก ก็ไม่ได้กังวลอะไร จนต่อมาเมื่อตนทำงานบ้านเสร็จก็ตั้งใจจะเดินทางไปรับสามีกลับบ้าน เมื่อไปถึงบ้านญาติสามี ญาติสามีบอกว่า สามีตนเองอาศัยรถซาเล้งของเพื่อนบ้านกลับไปก่อนหน้าที่ตนจะมา ตนจึงย้อนกลับไปที่บ้านแต่ไม่พบ จึงได้ออกตามหา ไปทั่วโดยมีเพื่อนบ้านและญาติช่วย จนมาพบรองเท้าสามีที่สะพานบ้านหินแหลม ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควน้อย มีมีระดับน้ำสูงและสีขุ่น ตนคิดว่าสามีน่าจะกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตาย

 

ขณะที่ น.ส.จันทิมา และ น.ส.เจนจิรา  บุตรสาว ซึ่งทั้ง 2 อยู่ในอาการเศร้าเสียใจ และคอยติดตามการค้นหาร่างของพ่อ บนสะพานกับแม่ และ ญาติๆ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า มั่นใจว่าพ่อกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เนื่องจากพ่อมีโรครุมเร้าและมักจะบ่นอยากฆ่าตัวตายเสมอ ที่ผ่านมาพยายามปลอบพ่อ และ ขอไม่ให้พ่อคิดที่ฆ่าตัวตาย และคอยดูแลพ่ออย่างใกล้ชิดเสมอ แต่เนื่องจากวันนี้ทั้ง 2 ต้องไปทำงานที่โรงเรียน จึงให้แม่คอยดูแลพ่อที่บ้าน รู้สึกตกใจมาก เมื่อแม่โทรบอกว่าพ่อโดดสะพาน