"วิโรจน์" ชี้ รัฐบาล จ่อขยายเพดานหนี้สาธารณะ 70% ควรทำ แต่ไม่ควรเป็น "บิ๊กตู่"
21 ก.ย. 2564, 14:38
วันที่ 21 ก.ย. 64 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในคณะทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจและสังคมของพรรค ได้ให้ความเห็นต่อกรณี จากข่าวเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังของรัฐ โดยมีมติให้ปรับเพดานหนี้สาธารณะ จาก 60% ให้เป็น 70% ต่อ GDP ซึ่งเมื่อคำนวณแล้ว จะเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถกู้เงิน นอกเหนือจากแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2565 ได้อีกประมาณ 1 ล้านล้านบาท
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต่อกรณีนี้ หากยังจำกันได้เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 64 ที่สภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดเอาไว้เองต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า “ผมไม่โง่กู้ถึง 60% โดยที่มันผิดกฎหมายหรอก” ซึ่งก็ต้องย้ำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าใจว่า พรรคก้าวไกล ไม่เคยทักท้วงการกู้เลย ซึ่งตนเเละพรรคก้าวไกลได้เน้นย้ำมาตลอดว่า ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การกู้เงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในด้านต่างๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น การจัดซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการแพร่ระบาด การจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ การเตรียมการด้านระบบสาธารณสุข การเยียวยาให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ และการดำเนินนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อการพยุงการจ้างงาน การรักษาระดับการบริโภค และการส่งเสริมลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ภายในประเทศ เป็นเรื่องที่พรรคไม่เคยขัดข้อง และยืนยันว่าการกู้เงินมีความจำเป็นด้วยซ้ำ
วันที่ 21 ก.ย. 64 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในคณะทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจและสังคมของพรรค ได้ให้ความเห็นต่อกรณี จากข่าวเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังของรัฐ โดยมีมติให้ปรับเพดานหนี้สาธารณะ จาก 60% ให้เป็น 70% ต่อ GDP ซึ่งเมื่อคำนวณแล้ว จะเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถกู้เงิน นอกเหนือจากแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2565 ได้อีกประมาณ 1 ล้านล้านบาท
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต่อกรณีนี้ หากยังจำกันได้เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 64 ที่สภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดเอาไว้เองต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า “ผมไม่โง่กู้ถึง 60% โดยที่มันผิดกฎหมายหรอก” ซึ่งก็ต้องย้ำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าใจว่า พรรคก้าวไกล ไม่เคยทักท้วงการกู้เลย ซึ่งตนเเละพรรคก้าวไกลได้เน้นย้ำมาตลอดว่า ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การกู้เงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในด้านต่างๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น การจัดซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการแพร่ระบาด การจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ การเตรียมการด้านระบบสาธารณสุข การเยียวยาให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ และการดำเนินนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อการพยุงการจ้างงาน การรักษาระดับการบริโภค และการส่งเสริมลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ภายในประเทศ เป็นเรื่องที่พรรคไม่เคยขัดข้อง และยืนยันว่าการกู้เงินมีความจำเป็นด้วยซ้ำ
วันที่ 21 ก.ย. 64 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในคณะทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจและสังคมของพรรค ได้ให้ความเห็นต่อกรณี จากข่าวเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังของรัฐ โดยมีมติให้ปรับเพดานหนี้สาธารณะ จาก 60% ให้เป็น 70% ต่อ GDP ซึ่งเมื่อคำนวณแล้ว จะเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถกู้เงิน นอกเหนือจากแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2565 ได้อีกประมาณ 1 ล้านล้านบาท
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ต่อกรณีนี้ หากยังจำกันได้เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 64 ที่สภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดเอาไว้เองต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า “ผมไม่โง่กู้ถึง 60% โดยที่มันผิดกฎหมายหรอก” ซึ่งก็ต้องย้ำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าใจว่า พรรคก้าวไกล ไม่เคยทักท้วงการกู้เลย ซึ่งตนเเละพรรคก้าวไกลได้เน้นย้ำมาตลอดว่า ในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การกู้เงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในด้านต่างๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น การจัดซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการแพร่ระบาด การจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ การเตรียมการด้านระบบสาธารณสุข การเยียวยาให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ และการดำเนินนโยบายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อการพยุงการจ้างงาน การรักษาระดับการบริโภค และการส่งเสริมลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ภายในประเทศ เป็นเรื่องที่พรรคไม่เคยขัดข้อง และยืนยันว่าการกู้เงินมีความจำเป็นด้วยซ้ำ
ขอบคุณที่มา : thairath