วันที่ 20 ก.ย.64. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระบุรี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นาย ธนันณัฎฐ์ พุ่มเจริญ อายุ 73 ปี ว่ามี งูเข้ามากินนกเขาชะวาในกรง 4 ตัว และตายคากรง 2 ตัว อยากให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างมาช่วยจับงูให้หน่อย ขณะนี้งูนอนอยู่ในกรงนกออกไปไหนไมได้ เนื่องจากกินนกเข้าไปจนท้องป่อง  ที่บ้านเลขที่ 3 ชุมชนวัดป่าสัก ถ.เทศบาล 4 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี  เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่าง 2 นาย พร้อมอุปกรณ์การจับงู เดินทางไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่บ้านหลังดังกล่าว

เมื่อไปถึงพบนายธนันณัฎฐ์ (เจ้าของบ้าน) ยืนคอยอยู่ ได้พาเจ้าหน้าที่ไปดูกรงที่มีงูอยู่ จึงได้ตรวจสอบ พบ งูเหลือมนอนท้องป่องอยู่อย่างสบาย และมีนกเขาชะวาและนกเขาใหญ่นอนตายอยู่ในกรง 2 ตัว และมีนกเขาใหญ่ด่างเหลืออีก 1 ตัวที่ยังไม่ตาย   เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับงู โดยใช้เหล็กหนีบไปที่ตัวงูออกมาได้  งูได้พันเหล็กหนีบ โดยที่เจ้างูเหลือมไม่ได้ต่อสู้หรือดิ้นขัดขืนใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากว่ากินเหยื่อเข้าไปจนท้องป่อง และเลื้อยหนีไปไหนไม่ได้ จึงได้ขดตัวนอนอยู่ในกรงดังกล่าว  ใช้เวลาในการจับงูเหลือมไม่ถึง 5 นาที ยาวประมาณเมตรครึ่ง  จากนั้นจึงได้นำงูใส่ถุงเพื่อจะนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป  เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่าง สันนิษฐานว่า งูเหลือมตัวดังกล่าวน่าจะแหกกรง และรีดตัวเข้าไปกินนก จนท้องป่อง เวลาจะออก ออกไม่ได้เพราะติดท้อง จึงได้นอนคากรงอยู่แบบนี้ จนเจ้าของมาเจอ และเรียกให้พวกตนมาจับดังกล่าว

ทางด้านนายธนันณัฎฐ์ เล่าว่า ตนเองเลี้ยงนกเขาชะวาและนกเขาใหญ่ด่าง  อยู่ในกรงเดียวกัน 7 ตัว  ตื่นเช้ามาตนจะมาให้อาหารนกตามปกติ  ปรากฏว่ามองไม่เห็นนกสักตัว ตกใจ อ้าว นกหายไปไหน มีงูมานอนในกรงนกแทน หลังจากนั้นตนคิดว่าจะจับเอง แต่ถ้าจับเองแล้วก็จะมีปัญหา ต้องไปปล่อยที่ไหน ก็ไม่รู้ที่ปล่อย ก็ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญทางฝ่ายจับโดยเฉพาะ นกที่ตายเป็นนกเขาชะวา โดนงูกินไปไม่ต่ำกว่า 4 ตัว กัดตายอีก 2 ตัว และเหลือนกเขาใหญ่ด่างอีก 1 ตัว ที่บินอยู่ในกรง  เป็นงูเหลือมยาวประมาณเมตรครึ่ง และในท้องยังป่องอยู่ ยังย่อยไม่หมด  ส่วนสาเหตุที่งูเข้ามาได้ เพราะเป็นกรงเหล็กขนาดใหญ่ มีรูแหกเท่าข้อมือ งูน่าจะรีดตัวเข้าไปได้  แต่ออกไม่ได้เพราะท้องป่อง ตนเสียดาย เพราะตนเลี้ยงนกไว้เพาะขาย นกที่ตายทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูกกัน เหลือแค่ลูกเขาใหญ่ด่างแค่ 1 ตัว