เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รอง ผบ.ตร. สั่ง!! ตำรวจเร่งค้นหาคนร้าย หลังพบอาวุธสงคราม ที่ห้วยกมด


7 มิ.ย. 2562, 16:40



รอง ผบ.ตร. สั่ง!! ตำรวจเร่งค้นหาคนร้าย หลังพบอาวุธสงคราม ที่ห้วยกมด




เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร. (ด้านความมั่นคง) และคณะได้เดินทางมาประชุมร่วมกับส่วนราชการด้านความมั่นคงและทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจยึดอาวุธสงครามได้ที่ห้วยกมด ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ   ซึ่งชาวบ้านไปทอดแหหาปลาได้พบอาวุธสงครามและได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ขุขันธ์ทราบ โดย รอง ผบ.ตร. ได้ทำการตรวจสำนวนคดีและได้หารือร่วมกับ พล.ต.ท.พูลศักดิ์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 3 และ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภาค 3 พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข รอง ผบช.สพฐ.ตร. พ.ต.อ.อัยรัช ชิณประยูร รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์และคณะ ซึ่ง รอง ผบ.ตร.ได้ตรวจติดตามหลักฐานพยานวัตถุต่าง ๆ เช่น ถุงมือของคนร้ายที่เก็บได้ อาวุธสงครามที่ได้ตรวจยึดได้ในสถานที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้กำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน   จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการตรวจดีเอ็นเอ ของ รอง ผบ.ตร. ไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากว่า ได้ใช้มือไปจับอาวุธสงครามที่ตรวจยึดมาได้

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร. (ด้านความมั่นคง) กล่าวว่า นายก รมต. รองนายก รมต.และ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตนมาตรวจติดตามคดีนี้  และกำชับว่า ให้ติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ เนื่องจากว่า มีอาวุธสงครามที่ตรวจยึดได้จำนวนมาก อีกทั้งถือเป็นภัยคุกคามในการประชุมสุดยอดอาเซียนซัมมิท ที่ใกล้จะถึงนี้ โดยอาวุธที่ยึดมาได้ทั้งหมดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ยืนยันว่า เป็นอาวุธที่ผลิตในประเทศโซเวียตรัสเซีย และไม่มีใช้ในกองทัพไทย อีกทั้งจุดที่ตรวจยึดได้อยู่ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 41 กม. เท่านั้น ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตร.ทำการตรวจค้นหาคนร้ายและตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากช่องสะงำมาจนถึง อ.ขุขันธ์ และอำเภอใกล้เคียงเพื่อหาตัวคนร้าย ซึ่งจะได้ตรวจสอบดีเอ็นเอจากถุงมือและอาวุธสงครามทั้งหมดที่ยึดได้ ตนยืนยันว่า อาวุธสงครามทั้งหมดที่ตรวจยึดได้มีลักษณะทางกายภาพเหมือนกับอาวุธสงครามที่ใช้ในการก่อเหตุความไม่สงบทางการเมืองปี 53 – 54 ซึ่งตนจะเสนอกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องว่า หากมีการขออนุญาตจัดการชุมนุมจะเพิ่มเงื่อนไขไปว่า ผู้ชุมนุมจะต้องดูแลป้องกันตนเองด้วย ไม่ใช่ให้ ตร.มาช่วยดูแลเพียงอย่างเดียว ส่วนชาวบ้าน 2 คน ที่พบอาวุธสงครามนั้น ถือว่าเป็นพลเมืองดีช่วยเหลือทางราชการ ตนจึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภาค 3 พิจารณามอบรางวัลให้เป็นกรณีพิเศษ

 



ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับอาวุธสงครามทั้งหมดนั้น ได้มีชาวบ้านตรวจพบเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.62 เวลาประมาณ 13.00 น. ที่ผ่านมา โดยมี นายใส ศรีลาชัย  อายุ 55 ปี ที่อยู่ 9 ม.15 ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ออกไปทอดแหในลำห้วยกมด บ้านขนุนเหนือ ม.15 ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้พบกระสอบปุ๋ยอยู่ในลำห้วยกมดพบว่าในกระสอบมีวัตถุระเบิดและกระสุนปืน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุขันธ์ เข้าตรวจสอบ พบวัตถุ ดังนี้

1. จรวดต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2)           จำนวน 21 ลูก

2. ดินส่งต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2)           จำนวน 24 แท่ง  

3. ลูกระเบิด เอ็ม 79 (ขนาด 40 มม. )   จำนวน 70 ลูก

4. กระสุนปืน ขนาด 7.62                   จำนวน 1 ลัง 700 นัด

5. ดินขยายการระเบิด จรวดต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2) จำนวน 1 ลัง จำนวน 48 นัด

 

ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบโดยละเอียด และได้รายงานให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.และนายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผวจ.ศรีสะเกษ ทราบและได้สั่งการให้ตรวจสอบในบริเวณที่พบอาวุธสงครามดังกล่าวโดยละเอียด ให้ขยายผลการตรวจออกไปอีก ข้างละ 200 เมตรและให้สูบน้ำจากบริเวณดังกล่าวออก ในวันที่ 6 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจพบอาวุธสงครามเพิ่มเติมอีกดังนี้

 

1.จรวดต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2) จำนวน 41 ลูก (รวมที่พบในวันที่ 5 และ 6 มิ.ย.62 จำนวน  62 ลูก )

2.ดินส่งต่อสู้รถถัง(ชนิด PG2) จำนวน 1 แท่ง (รวมที่พบในวันที่ 5 และ 6 มิ.ย.62 จำนวน 25 แท่ง)

 

3.กระสุน ขนาด 7.62  จำนวน 3 ลัง ( 2,100 นัด) (รวมที่พบในวันที่ 5 และ 6  มิ.ย.62  จำนวน 4 ลัง (2,800 นัด) ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ตั้งข้อหาว่า 1. มีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 4(2) พ.ร.บ.เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด พ.ศ.2490 2.มียุทธภัณฑ์ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 และ 3.นำสินค้าต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 242,244,246 โดยอาวุธสงครามทั้งหมดจะถูกนำไปที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจหาร่องรอยเบาะแสคนร้าย และเพื่อให้ทราบถึงความเป็นมาของอาวุธสงครามทั้งหมดต่อไป







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.