วันที่ 15 ก.ย.64. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่าง ได้รับแจ้งจาก น.ส.  อนุศรา กุระจินดา อายุ 33 ปี ว่า พบงูเห่าอยู่ในครัว ร้านเป็นต่อ (อาหารเวียดนาม) อยากให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างมาช่วยจับให้หน่อย เพราะพวกตนกลัวงูกัน ตนอยู่กับหลานสาวและลูกชาย ในร้านเพียงแค่ 3 คน  อยากจะรีบเปิดร้านขายของเพราะมีลูกค้า จะเข้ามารับประทานอาหารในร้านแล้ว แต่ไม่กล้าเข้าไปทำอาหารเช้าให้กับลูกค้าในครัว เพราะกลัวงูมันจะฉกหรือกัด อยู่ที่ ร้านเป็นต่อ (อาหารเวียดนาม) เลขที่ 18/8 หมู่ 5 ต.ตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่าง 2 นาย จึงได้ไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ร้านหลังดังกล่าว

จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบน.ส.  อนุศรา กับลูกชายและหลานสาว  นั่งคอยอยู่ในร้าน  ได้พาเจ้าหน้าที่ไปดูที่งูซุกซ่อนอยู่ใต้ถุงถ่าน  จึงได้ทำการช่วยเหลือโดยใช้ไม้ตะขอเหล็กค่อยๆเลื่อนถุงถ่านออกมาอย่างช้าๆ ก็พบ งูนอนขดอยู่ พอเจ้างูเห็นเจ้าหน้าที่งูได้เลื้อยหนีและแผ่แม่เบี้ยไปด้วย จากนั้นงูสบโอกาสได้รีบเลื้อยเข้าไปในถุงถ่านที่มีรอยขาดอยู่แล้ว ซุกซ่อนอยู่ในนั้น  จึงได้ใช้ไม้ตะขอเหล็กแงะดูตามรอยขาดที่ถุงถ่าน  แต่ก็ไม่เห็น ด้วยความลำบาก ประกอบกับในครัวพื้นที่แคบ  จึงได้ใช้ไม้ตะขอเหล็กลากถุงถ่านออกมาไว้หน้าร้าน ใช้มีดกรีดถุงให้ขาด  และใช้ไม้ตะขอเหล็กเขี่ยถ่านค้นหางู จนพบ จึงได้ใช้ไม้ตะขอเหล็กเกี่ยวตัวงูขึ้นมาวางไว้ในที่โล่ง งูได้ดิ้นขัดขืนและต่อสู้ ชูคอแผ่แม่เบี้ยฉกเจ้าหน้าที่ จนสามารถจับตัวงูได้เป็นผลสำเร็จ เป็นงูเห่าพ้นพิษ ยาวประมาณ 1 เมตร 20 จากนั้นจึงได้นำงูใส่ถุงเพื่อจะนำไปคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

ทางด้าน น.ส.  อนุศรา กุระจินดา (เจ้าของร้าน) เล่าให้ฟังว่า  ตื่นเช้ามาตนจะมาเปิดร้านเพื่อขายของ และมาทำความสะอาดครัว ตนก็ได้เก็บกวาดไปทั่ว และได้ไปดึงถุงถ่านมาเพื่อจะนำถ่านใส่ถัง ขณะกำลังนั่งเก็บถ่านได้ยินเสียง ฟู่ฟู่ ตนก็คิดว่าลืมปิดแก๊ส ด้วยความสายตาสั้นตนก็ไม่ได้มองว่าคืออะไร  แต่พอมันแผ่แม่เบี้ยมา จึงได้เห็นว่าเป็นงู ตกใจ ส่วนงูก็ได้เลื้อยเข้าไปอยู่ใต้ถุงถ่าน ตนจึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างให้มาช่วยจับเป็นการด่วน