จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยกล้าออกไปไหน อาหารที่จะรับประทานในชีวิตประจำวัน ก็ต้องพึ่งระบบสื่อโซเชียลสั่งมา ทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มรายหนึ่ง เกิดปิ๊งไอเดีย แบ่งใช้พื้นที่ 3 ไร่ ปลูกผักสวนครัวหลากหลายชนิด เก็บบรรจุใส่ถุงผักรวมมิตร โฟสต์ขายผ่านสื่อออนไลน์ ถุงละ 100 บาท ผลตอบรับดีเกินคาด มีรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 500 บาท

จากกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับการเปิดเผยจาก นางเพ็ญนภา อายุ 44  ปี ชาว ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่า ตนเองมีที่ดินกว่า 10 ไร่ และพื้นที่สวนใหญ่ ก็ปลูกพืชเศรษฐกิจ คือปาล์มน้ำมัน รายได้ขึ้นอยู่กับราคาที่โรงงานกำหนด ต่อมา ในช่วงโรคระบาดโควิด-19  ที่ผ่านมา ทำให้ลูกสาวที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ต้องกลับบ้านและกักตัว 14 วัน ตนเองและลูกสาวจึงได้ คิดกันว่าจะใช้เวลาว่างที่ต้องกักตัวในการปลูกผักสวนครัว เพื่อไว้กิน และส่วนหนึ่งก็เพื่อส่งขายให้กับร้านค้าในชุมชน

หลังจากที่ได้พูดคุยกันก็ได้ลงมือปลูกผักโดยเริ่มจากการปลูกผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า  แต่เมื่อเริ่มลงมือได้ไม่นานลูกสาวก็ต้องกลับไปดูแลแฟนซึ่งประสบอุบัติเหตุที่กรุงเทพฯ ตนเอง จึงต้องเป็นคนรับผิดชอบในการดูแลผัก ปลูกผัก เมื่อผักสามารถเก็บเกี่ยวได้ ก็เก็บมากิน เก็บไปแจกเพื่อนบ้านให้ได้กิน โดยผักของเราจะผักที่ไม่ใช้สารเคมี ใช้ปุ๋ยจากมูลไส้เดือนที่เลี้ยงไว้เอง หลักจากก็เก็บผักไปขายที่ร้านค้าแถวบ้าน เพราะผลผลิตเริ่มเยอะขึ้น แต่เมื่อเราเอาผักบุ้งไปขายทุกๆ วันก็เริ่มขายไม่ได้ เพราะลูกค้าก็เริ่มเบื่อ

จึงมานั่งคิดว่าจะเปลี่ยนวิธีการขายยังไงให้ลูกค้าสนใจและคนซื้อได้ของดี และถูก  เพราะในยุคโควิดนั้นข้าวของแพง รายได้ก็ลดน้อยลง ทุกคนต่างก็ลำบากกันทั่วถึงไปหมด ตนเองจึงมาคิดว่าก่อนหน้านี้ตนเองขายผักบุ้งกำละ 20 บาท ซึ่งบางครั้งลูกค้าซื้อไปก็กินไม่หมด เลยคิดว่า ถ้าเราทำผักกำละ 10 บาท  หลายๆ อย่างรวมกัน และใส่ลงไปในถุงใบใหญ่ๆ โดยในถุงนั้นสามารถนำไปผัด ไปแกง ไปทำน้ำพริกได้ด้วย ก็คงช่วยให้ชาวบ้านซื้อผักได้ถูกลง และลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้  รวมไปถึงจะได้ผักที่ปลอดสารพิษ เมื่อเริ่มคิด ตนเองก็เริ่มลงมือทำทันที โดยในถุงนั้น ตนเองจะใส่ผัก บุ้ง กวางตุ้ง มะนาว  พริก ข้าวโพด ดอกแค ถั่วฝักยาว ถั่วพู ผักสลัด และอื่นๆ ตามที่ผลผลิตอะไรจะออกมา ซึ่งจะไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเอาผักอะไร โดย 1 ถุงนั้น จะมีประมาณ 6-8 อย่าง อยู่ที่ผักที่จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในแต่ละวัน  ซึ่งจำหน่ายถุงละ 100 บาท ส่วนการขายของตนเองนั้นใช้วิธีโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก ทำให้มีเพื่อนๆ ให้ความสนใจและสั่งจองผักกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนเองก็สามารถเก็บเกี่ยวผักในแปลง บรรจุได้วันละ 3-6 ถุง รายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 500 บาท ต่อวัน

นางเพ็ญนภา กล่าวต่อว่า พื้นที่ 3 ไร่ ที่ปลูกผัก และปลูกข้าวนั้นหากเรามีความตั้งใจที่จะทำก็ประสบความสำเร็จ ซึ่งแปลงผักที่เห็นไม่ได้สวยงาม ไม่ได้มีโรงเรือน ไม่ได้ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ก็สามารถเก็บเกี่ยวและส่งขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และมีผักปลอดสารพิษไว้ได้กินอีกด้วย ในอนาคตนั้นตนเองวางแผนไว้ว่า จะเปิดให้ลูกค้าที่สนใจจะมาซื้อผักที่สวนของตนเอง สามารถเดินเลือกผักและเก็บผักได้ในสวนเอง โดยอยากได้ผักแบบไหนก็เลือกเก็บเลือกซื้อได้ตามใจชอบ ให้เหมือนที่ตนเองไปจ่ายตลาด แต่ที่สวนของเราจะได้ผักสดจากต้น