สาวนักศึกษาวัย19 ดับ หลังฉีดแอสตร้าฯ แพทย์ระบุ ไม่ปรากฏสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด
9 ก.ย. 2564, 13:38
เกิดเหตุการณ์ที่ทำเอาคนไทยตื่นตระหนกไม่น้อย เมื่อ น.ส.อรกัญญา เชยวัดเกาะ อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 3 ได้ไปฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา แล้วเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ก.ย. นำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต แพทย์ระบุไม่ปรากฏสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด จึงทำให้ครอบครัวติดใจการเสียชีวิตและต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยคุณแม่เล่าว่า ลูกสาวมีไข้ขึ้นสูงถึง 40 องศาฯ จึงโทรปรึกษาญาติที่ทำงานเกี่ยวกับสาธารณสุข ญาติบอกว่าอาจเป็นผลข้างเคียง ไม่น่าจะเป็นอะไร และจากนั้นลูกสาวก็ป่วยมาตลอด จนกระทั่งวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวกำลังยืนตากผ้าอยู่ที่บ้าน จู่ๆ ก็เป็นลม หมดสติ แฟนของลูกสาวจึงโทรแจ้ง 191 เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พบว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนและครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะปกติลูกสาวร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด
ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เผยว่าหากมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจหอบ เหนื่อยง่ายอ่อนเพลีย ใจสั่น หากมีอากการภายใน 30 วันหลังได้รับวัคซีนควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ กรณีเป็นผู้ป่วยที่มีประวัติ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเคยมีภาวะหัวใจล้มเหลวมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาเพื่อประเมินภาวะของโรคก่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาประโยชน์ที่ได้รับจากการฉีดวัคซีนที่ประเทศไทยใช้อยู่ยังมีมากกว่าอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น จึงยังคงแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนต่อไป ดังนั้น ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่ติดโควิด-19แล้วมีอาการรุนแรงและเสียชีวิต คือ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคและหญิงตั้งครรภ์ให้เข้ารับการฉีดวัคซีน