เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สุริยา ชินพันธุ์ วัย70 เผยจุดเปลี่ยนชีวิต กำลังโด่งดัง แต่ป่วยเป็นตับแข็ง


3 ก.ย. 2564, 14:51



สุริยา ชินพันธุ์ วัย70 เผยจุดเปลี่ยนชีวิต กำลังโด่งดัง แต่ป่วยเป็นตับแข็ง




 

 


อดีตพระเอกรุ่นใหญ่ สุริยา ชินพันธุ์ เปิดใจในรายการคุยแซ่บ SHOW ทางช่อง One31 เผยเรื่องราวจุดเปลี่ยนในชีวิต จากพระเอกดาวรุ่งสู่ดาวร่วงในช่วงข้ามคืน เพราะป่วยหนักหลายโรครุมเร้า 

เส้นทางในวงการที่ผ่านมา
"เริ่มจากเราเล่นหนังแล้วสะสมไว้ จนเราดรอปการแสดงแล้วไปตั้งวงดนตรี ตอนตั้งวงก็มีการยืมเขามามั่ง ใช้เงินสะสมของตัวเองบ้าง เปิดได้ 5 ปี 3 ปีแรกพออยู่ได้ แต่ 2 ปีหลังเริ่มแย่ เพราะมีการปฎิวัติ น้ำมันก็แพงขึ้น และเริ่มมีช่องโทรทัศน์เกิดขึ้น ส่วนที่ต้องขายบ้าน ขายรถ ก็เพื่อเอามาใช้หนี้ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็เอามาปิดไฟแนล เพราะวงดนตรีของผม ผมลงทุนเอง ในขณะที่วงลูกทุ่งวงอื่นๆ เขามีนายห้างสนับสนุน" 

ตอนนี้อาศัยอยู่ไหน 
"อยู่บ้านตัวเองแถวลำลูกกา ก็อยู่มา 15 ปีแล้วกับภรรยา 2 คน ส่วนลูกๆ โตกันหมดแล้ว ตอนนี้ลูกชายก็ลำบาก ขับแท็กซี่ ส่วนลูกสาวก็ไปมีครอบครัว แต่ก็มีส่งให้คุณพ่อเดือนละ 4-5 พัน ก็พอได้ใช้จ่าย ถามว่าพอไหม ก็ไม่พอหรอก เพราะมีทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่าย แล้วเราต้องออกไปโน่นไปนี่ แต่ช่วงนี้ดีหน่อยโควิดมา 2 ปีนี้ก็ไม่ค่อยออกไปไหน" 


ระหว่างที่กำลังโด่งดัง ป่วยเป็นตับแข็ง
"ตับแข็ง เคยเป็นมา 2 ระยะ ระยะแรกเป็นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นอายุ 24-25 ปี ก็เป็นไวรัสซีซึ่งผมก็รักษาหายแล้ว ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมเล่นละครทีวี ตั้งแต่สมัยช่อง 4 บางขุนพรหม ซึ่งตอนนั้นมีแค่ 2 ช่อง คือ ช่อง 4 บางขุนพรหม และช่อง 5 สนามเป้า ช่วงนั้นถ่ายหนังยังเป็นแบบไขลาน ถามว่าเป็นตับแข็งเพราะดื่มเหล้าหรือเปล่า ปกติผมไม่ดื่ม แต่เวลาออกงานสังคมก็มีดื่มบ้าง แต่ก็มีดื่มยาชูกำลัง ตอนนั้นผมดื่มวันละ 5 ขวด เพราะงานเยอะเราไม่ได้พักผ่อนก็เลยต้องดื่มยาชูกำลัง ยิ่งช่วงหน้าฝนเราก็เล่นดนตรีที่ปักษ์ใต้เพราะเงินดี ช่วงนั้นเล่นวันละ 2 รอบ เล่นบ่ายและค่ำ  ตอนนี้กลายมาเป็นตับแข็งอีกครั้งแม้ว่าเราจะรักษาไวรัสซีหายแล้ว แต่คุณหมอบอกว่าอาการตับแข็ง ตับมันแข็งแล้วแข็งเลย รักษาไม่หาย ทุกวันนี้ก็ต้องทานยาตลอดชีวิต"  

ผ่านมรสุมชีวิตหนักๆ บ้านโดนยึด ยุบวงดนตรี ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น 
"เราไปทำวงดนตรีคือ 3 ปีแรกอยู่ได้ 2 ปีหลังอยู่ไม่ได้เพราะมีเคอร์ฟิว และตอนนั้นก็มีช่องทีวีหลายช่อง มีช่วงหนึ่งวงดนตรีโดนระเบิด คือผมไปเล่นดนตรี แล้วเด็กๆ วัยรุ่นจะขอเข้ามาดูฟรี ซึ่งทีมงานไม่ให้เพราะวงดนตรีเราก็ลงทุนมาเยอะ ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง ก็เกิดการวิวาทกันแล้วเขาก็หนีไป แต่หลังจากกฌมีข่าวว่าเขาจะมาเอาคืน  ซึ่งวันนั้นหลังจากวงดนตรีเลิกคนดูออกเกือบหมดแล้ว  ผมกับลูกน้องก็ออกไปรับค่าตัวที่คนจ่ายตังค์ แล้วก็เก็บเครื่องเสียง เก็บสแตน เก็บไฟ เก็บเวทีกันอยู่ ซึ่งบริเวณนั้นทำเป็นเพิงหมาแหงน สักพักก็มีคนปาระเบิดเข้ามา ลูกระเบิดกลิ้งหล่นลงมาจากเพลิงหมาแหงนแล้วก็ระเบิดตู้ม วันนั้นเสียเสียชีวิต 5 ศพ แล้วก็มีคนบาดเจ็บ ตอนนั้นเราต้องมีสติ ผมก็บอกลูกน้องรีบเอาคนเจ็บออกมาแล้วพากันไปโรงพยาบาลสมุทรปราการ" 

"แล้วหลังจากที่เกิดเหตุการณระเบิด วันรุ่งขึ้นเราต้องไปแสดงต่อที่ซอยพาณิชย์ธน แถมจรัญสนิทวงศ์  ก็ต้องไป วันนั้นลูกวงค่อนข้างเล่นไม่ค่อยดี ถามว่าเรากลัวไหมก็กลัวเหมือนกัน แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็ไม่กลัวเพราะเราเคยถ่ายหนัง ซึ่งบางเรื่องใช้ของจริงๆ ทั้งปืนระเบิด ถามว่าลูกทีมเอากำลังใจมาจากไหน เราก็ให้กำลังใจเขาว่าอย่างไรหัวหน้าก็ต้องดูแล หลังเสร็จงานก็ไปฟังสวดเพื่อนที่วัดมะกอก" 


 



เป็นบุคคลล้มละลายด้วย เกิดอะไรขึ้น
 "ครับ เราก็เป็นบุคคลล้มละลายเพราะเราไม่มีอะไรไปใช้หนี้เขา บ้าน ทีวี ตู้เย็น  เขาก็มายึดไป วงก็โดนยุบ ผมต้องเดินสายเล่นดนตรีก็ต้องฝากลูกๆ ให้คุณย่าเขาดูแล ช่วงนั้นลำบาก แต่ช่วงนั้นก็ยังโชคดีที่เพื่อนฝูงยังมีมาช่วยเหลือบ้าง แฟนคลับก็ช่วยเหลือ ตอนนั้นเราก็ป่วยด้วย ก็เลยถือโอกาสตอนช่วงหน้าฝน วงหยุดเล่นไม่ได้ก็เลยไปบวช 7 วัน"

แล้วเอาเงินที่ไหนรักษาตัว
 "ก็ได้เงินจากแฟนคลับบ้าง จากผู้ใหญ่ใจดีบ้าง และที่น่ารักที่สุดคือ เอก สรพงษ์ ชาตรี เขาก็มาช่วง 3-5 หมื่น รวมถึงบุคคลที่เราไม่รู้จักแต่เขาก็ให้คนมาติดเราให้เราไปหาเขา คือคุณต๋อง ศิษย์ฉ่อย เรียกผมไป แล้วก็เขียนเช็คให้ผม 5 หมื่น เขาบอกผมว่าเขาเป็นแฟนคลับคุณพ่อ เขาดูรายการแล้วสงสาร อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้ผมขอช่วยค่ายา เราก็นำเงินเหล่านั้นมารักษาตัว เส้นเลือดตีบบ้าง ไวรัสช่วงระยะแรกบ้าง"

 

 

 

 

 

 







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.