"ทนายเดชา" อธิบายแล้วปม "ผกก.โจ้" อ้างเป็นไบโพลาร์ เพื่อไม่ต้องรับโทษได้หรือไม่?
31 ส.ค. 2564, 12:35
ความคืบหน้าหลังจากตำรวจได้ควบคุมตัว อดีต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ไปศาล จ.นครสวรรค์ เพื่อขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมยื่นค้านประกันตัว เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ส่วนผลการชันสูตรศพของเหยื่อ ชี้ชัดว่าเกิดจากการขาดอาการหายใจ ส่วนสารเสพติดก็มี แต่ไม่มีผล ส่วนผลยาเสพติดพบว่ามีอยู่บ้าง แต่สรุปภาพรวมไม่ใช่สาเหตุการตายจากการเสพยาเสพติด ก่อนจะมีการเผยข้อมูลว่า ผู้กำกับโจ้ มีประวัติ เคยรักษาโรคไบโพลาร์ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มาสักระยะหนึ่งแล้ว และต้องกินยาอยู่เรื่อย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะนำประเด็นนี้มาต่อสู้ในชั้นศาล
อย่างไรก็ตาม นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “อดีตผู้กำกับโจ้/อ้างไบโพล่า/เพื่อไม่ต้องรับโทษได้หรือไม่/ตามข่าวฟังคำตอบข้างล่างนี้” พร้อมกับเขียนอธิบายข้อกฎหมายไว้ที่ใต้โพสต์ดังกล่าว
“ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 65 การที่ ผู้กระทำความผิดจะไม่ต้องรับโทษต้องเป็นกรณีที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้เลย เพราะมีจิตบกพร่องโรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน
แต่ถ้ารู้ผิดชอบอยู่บ้างบังคับตัวเองได้บ้างยังต้องรับโทษแต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าขณะกระทำความผิด รู้ผิดชอบบังคับตนเองได้ ต้องรับผิดเต็มตามที่กฎหมายกำหนดไม่สามารถลดโทษหรือไม่ต้องรับโทษส่วนตัวผมเห็นว่าต้องรับโทษเพราะ หากผู้กำกับโจ้เป็นโรคจิตสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่น่าจะแต่งตั้งเป็นผู้กำกับนะครับความเห็นส่วนตัว สอบถามข้อกฎหมาย 02 948 5700 ทนายคลายทุกข์ ให้ความรู้เบื้องต้นกับพี่น้องประชาชน”
ที่มา ทนายคลายทุกข์