เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"เจ๊เกี๊ยว" ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ไม่ยอมกักตัว 14 วัน ทำเอาวุ่นทั้งตลาดสดเทศบาลลูกแก


26 ส.ค. 2564, 13:31



"เจ๊เกี๊ยว" ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ไม่ยอมกักตัว 14 วัน ทำเอาวุ่นทั้งตลาดสดเทศบาลลูกแก




วันนี้ 26 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 ทีมงานเฉพาะกิจตอบโต้โควิค-19 นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน "เราคนไทยไม่ทิ้งกัน" บริการรับส่งผู้ป่วยโควิดฟรี 24 ชั่วโมง ได้ทำการไลฟ์สดลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีมีแม่ค้าเป็นหญิงสูงอายุ เดินทางมาขายของภายในตลาดสดเทศบาลลูกแก หมู่ที่ 6 ต.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยในคลิปมีการโต้เถียงกันระหว่างหญิงสูงวัยรายดังกล่าวกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ภายในตลาดอย่างดุดัน

จากคลิปพบว่าแม่ค้าส่วนใหญ่ขอให้หญิงสูงวัยรายดังกล่าวให้กลับบ้านไปกักตัวเนื่องจากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จนกระทั่งเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทีมงานเฉพาะกิจตอบโต้โควิค-19 นายยศวัฒน์ ได้เดินทางมาถึงพร้อมกับสวมใส่ชุด PPE นำเชือกฟางมาขึ้นกั้นพื้นที่หน้าร้านของหญิงสูงวัยเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเดินผ่านไปมาท่ามกลางการโต้คารมของหญิงสูงวัยและกลุ่มพ่อค้าและแม่ค้าที่ไม่มีใครยอมใคร

ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ลูกแก รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นเดินทางมาช่วยเกลี้ยกล่อมให้หญิงสูงวัยเดินทางกลับบ้านเพื่อไปกักตัว แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ สร้างความวุ่นวายให้กับชาวตลาดสดเทศบาลลูกแกรวมทั้งประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของภายในตลาดเป็นอย่างมาก

จนกระทั่งล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายเฉลิมพนธ์ ว่าสำหรับแม่ค้ารายดังกล่าวทราบเพียงชื่อเล่นว่า เจ๊เกี๊ยว อายุประมาณ 69 ปี เป็นแม่ค้าขายพริกแกงและผัดสด ส่วนสาเหตุที่ชาวตลาดสดลูกแกขอร้องให้กลับบ้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีแม่ค้าชาวอำเภอบ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่มีร้านค้าอยู่ติดกันติดเชื้อโควิด-19 เจ๊เกี๊ยว จึงเป็นบุคคลที่สัมผัสเสี่ยงสูง ที่จะต้องไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 และจะต้องกักตัวอย่างน้อยเป็นเวลา 14 วัน แต่ปรากฏว่า เจ๊เกี๊ยว ไม่ยอมปฏิบัติตามข้อกำหนดของสาธารณสุข

เมื่อเหล่าพ่อค้าแม่ค้าตลาดสดลูกแก มาพบจึงการการร้องขอและโต้เถียงกันเกิดขึ้น แต่แกก็ไม่ยอมพร้อมกับยืนยันว่าตนเองไม่ติดเชื้อโควิด-19 โดยเมื่อตนบอกไปว่าจะเหมาพริกแกงและผักที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อให้แกกลับบ้าน แต่แกก็ไม่ยอมและบอกว่าไม่ขายแต่จะขอแจกให้กับชาวบ้านฟรีและถึงแม้จะแจกฟรีก็คงไม่มีใครรับ ความวุ่นวายเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. จนกระทั่งเวลาประมาณ 08.00 น. เจ๊เกี๊ยว จึงยอมปั่นรถจักรยานกลับบ้านไปเอง

ส่วนตัวมองว่าน่าเห็นใจกันทั้งสองฝ่าย แต่ทุกคนจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม เมื่อรู้ตัวว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จะต้องเข้าสู่ระบบสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดก็จะให้ให้ชาวบ้านคนอื่นเดือดร้อนไปด้วย เช่น ชาวตลาดสดเทศบาลลูกแก เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางเทศบาลได้เตรียมประกาศปิดตลาดสดเทศบาลลูกแก เพื่อทำความสะอาดเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 27-30 ส.ค.64 จึงเป็นสาเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนไปด้วย

สำหรับปัญหาการติดเชื้อโควิด-19 ปัญหานี้ในฐานะสื่อมวลชนในพื้นที่ ก็มีผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียง โดยรับแจ้งจากผู้ที่ติดเชื้อและเป็นผู้ที่อยู่ในที่ทำงาน ที่มีพนักงานเป็นจำนวนมากๆ ซึ่งจะมีพนักงานติดโควิด-19 อยู่มากแต่ละแห่งจะถูกทางผู้บังคับบัญชากำชับว่า กับพนักงานเหล่านั้นว่า หากผู้ใดนำเรื่องการติดโควิดจากที่ทำงานจะถูกให้ออกจากงานทันที  ปัญหานี้จึงไม่มีผู้ใดยอมปริปากพูด รวมถึงผู้ที่ติดเชื้อโควิดจากทางสถานที่ทำงาน ก็ยังไม่รับดูแลหลังพนักงานเหล่านั้นป่วยเช่นกัน ซึ่งพวกเขาต้องไปดูแลตัวกันเอง ปัญหานี้ในฐานะสื่อมวลชน ได้รับเรื่องร้องมาอย่างต่อเนื่อง แต่เราก็ได้แจ้งไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่บางครั้งก็ถูกปฏิเสธแล้วก็โยนปัญหาไปต่างๆ นานา เช่นพื้นที่ไม่ได้อยู่ในที่ตนเองรับผิดชอบ หรือการปฏิเสธออกมาปัญหานี้เกิดขึ้นทุกที่มีเยอะมาก แล้วอย่างนี้เชื้อมันก็คงจะลดลงได้ช้ามาก เพราะการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐเป็นเช่นนี้ เราในฐานะเป็นสื่อมวลชนก็เป็นแค่กระบอกเสียงให้กับสังคม เราก็ช่วยได้แค่เพียงแค่เท่าที่ช่วยได้เช่นกัน

ดังนั้นทุกคนจะต้องเฝ้าดูแลตัวเองให้มากๆ กว่าที่เคยเป็นอยู่ ต้องมีระเบียบมากยิ่งขึ้น ปฏิบัติตนตามกระทรวงสาธารณสุขได้ออกให้ทางสื่อต่างๆ และก็ต้องขอฝากเตือนประชาชนให้เน้นมากๆ ก็คือเราใช้ชีวิตประจำวันจะต้องดูแลตัวเองให้มากกว่าปกติ เช่นเราเข้าไปสถานที่โดยเฉพาะที่เป็นห้องแอร์ ฯลฯ เช่น ตลอดสดเพื่อซื้อสิ่งของที่เป็นแหล่งที่มีประชาชนไปเดินเป็นจำนวนมาก เมื่อออกจากจุดนั้น เราต้องล้างมือ ล้างแขนทันทีที่ไม่มีสิ่งปกคลุม แล้วฉีดพ่นยาทันทีก่อนเสมอ เพราะหากเราไม่ทำเช่นนั้น เราอาจจะกลับบ้านแล้วเกิดการเผลอเอามือไปเช็คหรือไปโดนตามใบหน้า มันก็อาจจะนำเชื้อโรคเข้าไปติดเราเองได้ ดังนั้นเราต้องเฝ้าดูแลตัวเองให้ดีเพื่อความปลอดภัยกันเอง รวมถึงคนในครอบครัวด้วยจะดีกว่า

 

 

 



 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.