เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปดูโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม บริษัท นิวไบโอดีเซล จำกัด ต.เสวียต อ.ท่าฉาง พร้อมเปิดเผยว่า จะนำข้อมูลการพบเกษตรกรที่ จ.สุราษฎร์ธานี เข้าสู่ที่ประชุม ครม.วันที่ 27 ส.ค. 62 นี้

โดยการประกันรายได้เกษตรชาวสวนปาล์ม จะดำเนินควบคู่ไปกับมาตรการเพื่อดึงราคาปาล์มให้เพิ่มขึ้น 1.จะดำเนินการเสนอให้มีการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 10 เป็นภาคบังคับภายในก่อนสิ้นปีนี้ 2.จะดำเนินการนำน้ำมันปาล์มไปผลิตกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 130,000 ตัน และสำรองอีก 100,000 ตัน รวมทั้งหมด 230,000 ตัน 3.จะติดตั้งมิเตอร์เพื่อที่จะใช้ในการตรวจวัดจำนวนสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบที่มีอยู่ทั่วประเทศแบบเรียลไทม์ เพื่อจะได้รับรู้ว่าน้ำมันปาล์มดิบมีสต๊อกอยู่เท่าไหร่ จะได้ไม่ถกเถียงกันมีมากมีน้อยเป็นสาเหตุข้ออ้างน้ำมันปาล์มมีมากจะไม่ซื้อรับผลปาล์มจากเกษตรกร ซึ่งจะได้ตัวเลขที่แท้จริงและภาครัฐจะได้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น

 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากนั้นภาครัฐจะให้มีการส่งออกน้ำมันปาล์มไปตลาดสำคัญที่อินเดียและ จีน โดยภาครัฐจะสนับสนุนเพื่อส่งออกให้มากที่สุด ซึ่งตลาดอินเดียได้พบผู้ประกอบการส่งออกรายใหญ่ของประเทศพบว่าภาษีน้ำเข้าน้ำมันปาล์มของอินเดียยังลักลั่นอยู่ โดยจากมาเลเซียเก็บอยู่ที่ 44-45% แต่ของไทยจ่าย 50% จะให้กระทรวงพาณิชย์ไปดูจะทำอย่างไรให้ภาษีใกล้เคียงกันและแข่งขันกันได้

“ จัดการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มถือว่าเป็นมะเร็งร้ายทำร้ายชาวสวนปาล์มมาตลอด ตรวจสอบพบมีการขอนำผ่านแดนจากประเทศเพื่อนบ้านไปอีกประเทศหนึ่ง สมมุติตอนเข้า100 ตันพอออกไป 20ตัน มีน้ำมันหกอยู่ในบ้านเรา 80 ตัน เท่ากับมาเพิ่มปริมาณน้ำมันปาล์มในประเทศ จะต้องมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัดและจะพูดในการประชุม ครม.ให้ทุกหน่วยเข้มงวดปริมาณขาเข้าและขาออกต้องตรงกัน ” นายจุรินทร์ กล่าว

ด้านนายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานกรรมการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม บริษัท นิวไบโอดีเซล จำกัดและผู้ส่งออกน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า จากมาตรการของรัฐบาล 4-5 มาตรการ การนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าถือว่าสามารถนำสต๊อกออกไปได้เร็วที่สุด จะทำให้ราคาขึ้นทันที โดยอาจจะไม่ต้องไปชดเชยให้เกษตรกร เพราะสต๊อกออกจากระบบจะทำให้ราคาขึ้นทำให้เกษตรขายผลปาล์มได้ราคามากกว่าปัจจุบันที่ขายอยู่ และการผลักดันให้ไบโอดีเซลเป็นบี 10 จะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มในสต๊อกได้เดือนละ 3-40,000 ตัน จะลดสต๊อกลงได้ ทำให้เกษตรได้ราคาขึ้นเช่นกัน

“ การผลักดันส่งออกเป็นมาตรการที่ค่อนข้างจะเห็นได้ชัด ขณะนี้ผู้ประกอบการไบโอดีเซลปรับปรุงคุณภาพการผลิตสามารถไปเติมน้ำมันบี 10 ได้ตามมาตรฐานสากลของบริษัทรถยนต์ดีกว่าไบโอดีเซลบี 7 ส่วนการติดมิเตอร์เป็นเรื่องดีไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่มาตรวจวัดใช้เวลาหลายวัน แต่ต้องขอสนับสนุนจากภาครัฐเนื่องจากเครื่องมือวัดมีต้นทุนสูง ” นายประกิต กล่าว