"สมุทรสาคร" พบป่วยโควิดใหม่ทะลุพัน เสียชีวิตเพิ่ม 7 ราย
5 ส.ค. 2564, 08:53
วันที่ 5 ส.ค.2564 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จากข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 24.00 น.ของวันที่ 4 ส.ค.2564 ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,279 ราย จำแนกเป็นพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 402 ราย และพบผู้ติดเชื้อที่มาจากการเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลอีก 877 ราย
ในจำนวนนี้เป็นคนที่อยู่ใน จ.สมุทรสาคร 641 ราย ที่เหลือเป็นคนนอกจังหวัดอีก 236 ราย ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 54,762 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 31,925 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 22,672 ราย และ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 7 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 165 ราย
วันที่ 5 ส.ค.2564 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จากข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 24.00 น.ของวันที่ 4 ส.ค.2564 ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,279 ราย จำแนกเป็นพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 402 ราย และพบผู้ติดเชื้อที่มาจากการเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลอีก 877 ราย
ในจำนวนนี้เป็นคนที่อยู่ใน จ.สมุทรสาคร 641 ราย ที่เหลือเป็นคนนอกจังหวัดอีก 236 ราย ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 54,762 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 31,925 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 22,672 ราย และ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 7 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 165 ราย
นพ.นเรศฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ 2 คือ การเชื่อมโยงเครือข่ายการดูแลรักษาผู้ป่วย ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลสนาม ระบบการแยกกักแบบกักตัวที่บ้าน หรือ HI (Home Isolation) โรงพยาบาลสนามในชุมชน หรือ CI (Community Isolation) และโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ หรือ FAI (Factory Accommodation Isolation) หลัก ๆ ก็คงเป็นเรื่องของหน่วยโรงพยาบาลหลักที่จะต้องช่วยดูแล เพราะตอนนี้เครือข่ายของเราค่อนข้างมีอยู่จำนวนมาก และหลายส่วนก็เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกเอกชน
นพ.นเรศฤทธิ์ กล่าวว่า ซึ่งตรงนี้ก็ยังต้องดำเนินการพัฒนาให้เป็นรูปธรรมว่า โรงพยาบาลใดจะช่วยดูแลสถานที่แต่ละระดับอย่างไร เนื่องจากเป็นข้อจำกัดในจำนวนผู้ป่วยมีมากขึ้น เราต้องสร้างระบบตรงนี้ให้ชัดเจน แล้วก็มีการพูดคุยปรึกษาให้สามารถจะดูแลได้ รวมถึงการจัดระบบให้คำปรึกษา การจัดยา เช่น ฟ้าทะลายโจร หรือ ยาฟาวิพิราเวียร์ ให้สามารถจะมีทั่วถึงและรักษาได้อย่างรวดเร็ว
.jpg)
Recommend News
MOST POPULAR
