เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 64  พันเอกนิสิต สมานมิตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า  จากข้อมูลด้านการข่าวสืบทราบว่า จะมีการแอบลักลอบเข้ามาขนไม้พะยูง ที่บ้านขุนหาญ ต.โพธิ์กะสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เพื่อมารับไม้พะยูง ไปส่งให้กับนายทุนชาวลาว โดยใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ในการเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี  จึงได้จัดชุดเฉพาะกิจ ไปสนธิกำลังร่วมกับ นายสาธิต  พันธุมาศ  หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา   เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ  และหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ อ.ขุนหาญ ไปตรวจสอบบริเวณที่ได้รับแจ้งจากสายลับของหน่วยเฉพาะกิจที่ 3   เมื่อไปถึงพบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ HINO  สีเทา หมายเลขทะเบียน 70 – 4120 มหาสารคาม  มีผ้าใบ  จำนวน  1  ผืน ปกคลุมอยู่  ซึ่งมีลักษณะตรงกับที่ได้รับแจ้ง  จึงได้ทำการสกัดเพื่อตรวจสอบจับกุม ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบริเวณกระบะท้ายรถบรรทุก พบว่า  มีไม้พะยูงของกลาง จำนวน 66 ท่อน ไม้มีลักษณะใหม่สดและเป็นไม้แก่นล่อน ที่หน้าตัดของไม้พะยูงไม่พบร่องรอยรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่ขับขี่รถคันดังกล่าวมาคือ  นายอุทัย  เทียบหนู อายุ 50 ปี ได้รับจ้างขับรถเข้ามาในพื้นที่ เพื่อมารับไม้พะยูงทั้งหมด เพื่อนำไปส่งกับนายทุนที่จังหวัดแห่งหนึ่ง ส่งออกไปขายยังประเทศลาว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาว่า  มีไม้หวงห้าม(ไม้พะยูง)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย  จากนั้น ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดไปส่งมอบให้ พนักงานสอบสวน สภ.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำไม้ของกลางไปเก็บไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.1 อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า  ไม้พะยูงที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้ นับว่า เป็นการจับกุมไม้พะยูงรายใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ