วันนี้ ( 19 ก.ค. 2564)  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ชายแดนไทย-เมียนมา นายปกรณ์ กรรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี พร้อมด้วย พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า  พ.ต.ท.อำนวย ศรีสงคราม รอง.ผกก.สส.สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อ.ส. ตม.สังขละบุรี จนท.ด่านศุลกากรสังขละบุรี ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บสินค้า กว่า 7 แห่ง ในพื้นที่ ซ.พานิชย์ 7 -8  ซ.เกษตร 8 – 9  รวมทั้ง รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นสถานที่ ที่มีการแจ้งข้อมูลไว้กับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วม อ.สังขละบุรี บริเวณหน้าหมวดการทาง สังขละบุรี  ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ว่าเป็นแหล่งเก็บสินค้าประเภทหน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ภายหลังจากที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.กาญจนบุรี โดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี ได้มีคำสั่ง ที่ 284/2564 เรื่องปิดอำเภอสังขละบุรี และระงับการใช้ช่องทางสำหรับการนำเข้า-ส่งออกขนส่งสินค้า และสินค้าผ่านแดนทุกประเภท ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนเพื่อการท่องเที่ยว ) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นการชั่วคราว

ภายหลังจากคำสั่งดังกล่าว อ.สังขละบุรี ได้จัดตั้งจุดตรวจสอบสินค้า ณ บริเวณที่ทำการหมวดการทางสังขละบุรี โดยมีปลัดอำเภอสังขละบุรี เป็นผู้รับรองความถูกต้อง จึงจะมีการอนุญาตให้นำรถยนต์ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี มาขนถ่ายสินค้าผ่านเข้าไปยังพื้นที่ปลายทาง ใน อ.สังขละบุรีได้

ซึ่งในห้วงระยะเวลานับแต่มีการประกาศปิดอำเภอจนถึงวานนี้ มีข้อมูลว่า มีเอกชน 7 รายในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ขออนุญาตนำสินค้าจำพวกหน้ากากอนามัย จำนวนกว่า 5,500 ลัง เข้าไปจัดเก็บไว้ในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ นอกจากนั้นยังพบเอกชนอีก 1 ราย ขออนุญาตนำออกซิเจน จำนวน 50 ถัง ไปจัดเก็บพื้นที่ 

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าหน้ากากอนามัย เป็นสินค้าควบคุมของกรมการค้าภายใน ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ จึงทำให้จำเป็นต้องมีการลงพื้นที่ตรวจสอบหน้ากากอนามัย  ตามที่เอกชนทั้ง 7 ราย แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ไว้

ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบหน้ากากอนามัย ในโกดังทั้ง 7 แห่ง มีหน้ากากอนามัย รวมกัน เพียง 491 ลัง ซึ่งไม่ตรงกับจำนวนที่แจ้งไว้  โดยผู้ประกอบการได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้จำหน่ายให้ลูกค้าไปแล้ว  ภายหลังจากได้รับการชี้แจง นายปกรณ์ กรรณวัลลี ได้สั่งการให้ผู้ประกอบการทั้ง 7 ราย ทำหนังสือชี้แจงถึงจำนวนหน้ากากอนามัยทั้งหมดที่ผู้ประกอบการได้จำหน่ายไปให้ลูกค้า พร้อมแนบบัญชีและรายชื่อลูกค้าที่ ผู้ประกอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยไปให้ เพื่อรายงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรีให้ทราบในโอกาสต่อไป

พร้อมทั้งประกาศห้ามไม่ให้มีการอนุญาตขนสินค้าหน้ากากอนามัยและออกซิเจน ผ่านจุดตรวจสอบสินค้า บริเวณหน้าหมวดการทางสังขละบุรี นับตั้งแต่วันนี้

คาดว่าหน้ากากอนามัยที่หายไป ( 5,009 ลัง) ได้มีการลักลอบส่งไปจำหน่ายในประเทศเมียนมาแล้ว เนื่องจากปัจจุบัน ทั้งหน้ากากอนามัยและออกซิเจน เป็นที่ต้องการของประเทศเมียนมา เนื่องจากปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในเมียนมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดมีข้อมูลว่า เมื่อ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโควิด 17 ราย ในพื้นที่ กิ่ง อ.พยาตองซู ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์