สำหรับศูนย์พักผู้ป่วยรอเตียง ผู้ติดเชื้อโควิค-19 ของตำบลกระโพ ดังกล่าว สามารถรองรับผู้ป่วยเข้ารอการรักษาและเฝ้าดูอาการจำนวน 15 เตียง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลบริหารจัดการอย่างครบถ้วน ซึ่งตำบลกระโพพบผู้ป่วยติดเชื้อมาจากพื้นที่เสี่ยงแล้ว 25 ราย และขณะนี้ได้รับการประสานจากผู้ที่จะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ จำนวน 6 คน ซึ่งมีความเสี่ยง 2 คน สถานการณ์ตอนนี้ คนที่จะกลับเข้าพื้นที่แล้วก็เป็นผู้เสี่ยง และติดเชื้อแล้วมีกว่า 50 % ของคนที่กลับเข้าพื้นที่

นายแพทย์ยุทธนา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ป่าวยติดเชื้อโควิค-19 ในจังหวัดสุรินทร์ พบว่ามีแรงงานเดินทางกลับมาบ้านเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าจังหวัดสุรินทร์แต่เดิมมีผู้ป่วยรับเข้าวันละ 10 กว่าราย กระทั่งในช่วงที่มีการปิดแคมป์คนงานตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน เป็นต้นมา พบว่าเพิ่มขึ้นวันละ 30 ราย และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนมาช่วงล็อกดาวน์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดเสี่ยงสูง ซึ่งใน 2-3 วันที่ผ่านมา พบว่ามียอดผู้ป่วยรับเข้าเป็น 100 กว่ารายต่อวันในปัจจุบัน

โดยผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการเตรียมรองรับ คือ การขยายกำลังในโรงพยาบาลโดยการเพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วย จากเดิมมีเตียงรองรับผู้ป่วยโควิค-19 จำนวน 100 เตียง ก็เพิ่มขึ้นเป็น 400 เตียง มีการเปิดโรงพยาบาลสนามเป็นการถ่ายเทคนไข้ที่มั่นใจว่าอาการดีขึ้นแล้ว มาพักอยู่เพื่อให้เตียงรักษาใน รพ.มีเพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์จังหวัดสุรินทร์พบว่ามีคนเดินทางกลับเข้ามาเป็นจำนวนมากเกินที่จะรับเข้ารักษาในโรงพยาบาล ก็เลยได้มีการเปิดศูนย์พักผู้ป่วยรอเตียง หรือศูนย์พักคอย ซึ่งจะรับผู้ป่วยที่ทราบว่าติดเชื้อแล้วและอาการไม่หนักเข้ามาอยู่เพื่อเฝ้าอาการรอการเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยที่ศูนย์พักคอยจะมีความพร้อมในทุกด้าน หากพบว่าผู้ป่วยอาการรุนแรงก็จะส่งต่อเจ้ารักษายังโรงพยาบาลได้ทันที โดยศูนย์พักคอยจะสามารถแบ่งเบาการบริหารจัดการเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลได้ ดีมากขึ้น เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยหนักได้

โดยรวมจังหวัดสุรินทร์ ยังคงบริหารจัดการได้ไม่มีปัญหา เนื่องจากทุกภาคส่วนมีการร่วมมือในการบริหารจัดการได้อย่างดี โดยเฉพาะความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่และผู้ที่เข้ามาจากพื้นที่เสี่ยง มีการแจ้งเข้ามาให้ทราบก่อน จึงทำให้สามารถบริหารจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดออกไปได้เป็นอย่างดี

ด้านนายดิสพงษ์ นับวันดี ปลัด อบต.กระโพ กล่าวว่า ตรงนี้รับผู้ป่วยได้ 15 คน สามารถที่จะเตรียมเข้าโรงบาลท่าตูมได้ เพราะว่าโรงพยาบาลท่าตูมนั้นก็มีความพร้อมในการที่ส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงบาลสนามต่อ ตนเชื่อว่าการบริหารจัดการของโรงบาลท่าตูม พร้อมที่จะรองรับในการที่เราจะนำผู้ป่วย 15 ราย มาพักคอยได้ ตอนนี้ที่แจ้งมาแล้วอย่างน้อย 2 ราย แล้ววันนี้ และได้ข่าวว่าจะเดินทางมาจากกรุงเทพฯ อีก 6 คน ซึ่งมีความเสี่ยง 2 คน สถานการณ์ตอนนี้ คนที่จะกลับพื้นที่แล้วก็เป็นผู้เสี่ยง และติดเชื้อแล้วตนว่ามี 50 % ของคนที่กลับเข้าพื้นที่ และตอนนี้ไม่เฉพาะคนงานอย่างเดียวแล้วที่ติดเชื้อมา นักศึกษาก็เริ่มมีเข้ามาแล้ว หมายถึงมันแพร่ตั้งแต่วัยของนักศึกษา ตอนแรกเรามองเฉพาะกลุ่มคนงานในโรงงาน ตอนนี้กลุ่มนักศึกษาที่เขาใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯในพื้นที่เสี่ยงโอกาสเป็นตนว่าเริ่มมีมากขึ้นแล้ว

ขณะที่อำเภอสนม จ.สุรินทร์ ก็ได้โรงพยาบาลสนามที่หอประชุมอำเภอสนม เป็นศูนย์พักผู้ป่วยรอเตียง เพราะที่โรงพยาบาลมีผู้ป่วยโควิด-19 เต็มแล้ว