"หนุ่มวัย39" เมาคลั่ง! แทงเมียดับ ก่อนบุกรพ.จนตำรวจต้องยิงสยบ
19 ส.ค. 2562, 10:32
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 18 สิงหาคม2562 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง รับแจ้งขอความช่วยเหลือเกิดเหตุผัวเมาคลั่งกระหน่ำแทงภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 6 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ของ นางยุพิน สมบูรณ์ จึงรีบเดินทางไปช่วย พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง สาขาห้วยยอด เมื่อไปถึงพบ นายราเชน ขาวนิ่ม อายุ 39 ปี ผู้เป็นสามี วิ่งหนีตำรวจออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของแม่ยาย เพื่อกลับไปเอารถยนต์กระบะที่จอดไว้ที่บ้านของภรรยา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งกำลังขับรถไล่สกัดจับ แต่เจ้าตัวได้ขับรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบรอนด์ ป้ายทะเบียน กจ.4870 ตรัง หลบหนีการติดตาม และมุ่งหน้า รพ.ห้วยยอด เนื่องจากระหว่างที่ย้อนกลับไปเอารถที่จอดไว้ที่บ้านภรรยา เข้าใจว่าตำรวจจะต้องช่วยเหลือภรรยานำตัวส่ง รพ.ห้วยยอดแล้ว ขณะเดียวกันที่บ้านเกิดเหตุ เมื่อผัวคลั่งวิ่งหนีตำรวจออกจากบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง สาขาห้วยยอด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่ง และญาติ ได้รีบนำร่างของ นางวันดี สมบูรณ์ อายุ 45 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพเลือดท่วมตัวนอนหมดสติอยู่ภายในบ้าน รีบขึ้นรถกู้ภัยเพื่อนำตัวส่ง รพ.ห้วยยอด
โดยที่ รพ.ห้วยยอด ปรากฏว่า นายราเชน ผัวเมาคลั่งได้ขับรถยนต์มุ่งหน้ามา รพ.ห้วยยอด โดยที่ตำรวจได้ขับรถไล่ตามมาติดๆ เมื่อ นายราเชน มาถึง รพ.รีบจอดรถยนต์ และรีบคว้ามีดพร้าบุกเข้าไปบริเวณด้านหน้า รพ. พร้อมกับถามหาภรรยาว่าอยู่ห้องไหน และพยายามจะถือมีดพร้าผลักประตูห้องฉุกเฉิน รพ.เข้าไปหาภรรยาด้านใน เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่จะต้องนำตัวภรรยาถึง รพ.แล้ว ทำชาวบ้าน รวมทั้งหมอ พยาบาล ตกใจวิ่งหนีกระเจิง จน รปภ. และเจ้าหน้าที่ผู้ชาย รพ. เจ้าหน้าที่กู้ภัย และตำรวจที่ไล่ติดตามมาทัน พยายามเกลี้ยกล่อม แต่เจ้าตัวไม่ยอมสงบพยายามจะตามหาภรรยาให้ได้ พร้อมกับใช้มีดพร้าจะฟันเจ้าหน้าที่ศูนย์เปลที่เข้ามาขัดขวาง โดยฟันถูกเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ศูนย์เปล จนเป็นรอยมีดพร้าไปหลายครั้ง จนเจ้าหน้าต้องใช้ไม้ง่ามสำหรับล๊อคคอเพื่อจะหยุด แต่เจ้าตัวดิ้นหนีได้ และพยายามใช้มีดพร้าไล่ฟัน พ.ต.ต.วีระชัย หนูชู สารวัตรปราบปราม สภ.ห้วยยอด ที่นำกำลังเข้าไประงับเหตุ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กลัวคนร้ายจะจับชาวบ้าน หรือพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ รพ.เป็นตัวประกัน ซึ่งกลัวเหตุการณ์จะบานปลาย สารวัตรปราบปรามจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืน ขนาด 11 มม. ยิงไปที่ขาขวาของ นายราเชน จนทรุดลง จึงสามารถหยุดความบ้าคลั่งและจับกุมตัวไว้ได้ ทั้งนี้ หลังจากจับผัวคลั่งไว้ได้ รถของ รพ.ห้วยยอด ก็สามารถเข้าจอดด้านหน้า รพ.และนำตัวภรรยาเข้าไปในห้องฉุกเฉินได้ แต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าบริเวณหน้าอก 3 แผล และขาขวาอีก 1 แผล ท่ามกลางความเสียใจของลูกๆ และญาติพี่น้องที่เดินทางไปที่ รพ.เป็นจำนวนมาก
โดยหลังเจ้าหน้าที่จึงล็อกตัวผัวคลั่ง พร้อมอาวุธมีดปลายแหลม และมีดพร้าไว้ได้ ก็นำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกยิงที่ขา พร้อมตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ และพยายามจะเจาะเลือดตรวจหาสารเสพติด แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมสงบสติอารมณ์ ปฏิเสธการตรวจและการรักษาทุกอย่าง ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานไว้ประกอบดำเนินคดี นายราเชน ตามกฎหมายต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัว นายราเชน ไปรักษาต่อที่ รพ.ตรัง
นางสาววิยดา เห็นผลงาม อายุ 31 ปี พี่สะใภ้ผู้ตาย กล่าวว่า นายราเชน มีอาชีพรับจ้างเดินสายไฟ และเลิกรากับ นางวันดี มาประมาณ 1-2 ปีแล้ว โดยมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 10 ปี ช่วงเกิดเหตุได้เมาเข้าไปหาน้องสาวที่บ้านแม่ยาย ซึ่งอยู่กันประมาณ 4 คน เพื่อจะขอคืนดี เนื่องจากในระยะ 3-4 วันนี้ นายราเชน จะเมาเข้าไปหาและทำร้ายร่างกายน้องสาวทุกครั้ง จนญาติๆ ให้น้องสาว พร้อมลูกสาวที่เกิดกับ นายราเชน ไปนอนบ้านแม่ เพราะกลัว นายราเชน จะเข้าไปทำร้ายอีก กระทั่งก็เมาเข้าไปจริงและหาเรื่องทะเลาะ จนใช้มีดจ้วงแทงน้องสาวล้มลง โดยแม่ตะโกนเรียกให้ญาติที่บ้านอยู่ใกล้กันมาช่วย ตนเองก็รีบวิ่งไปดู พบ นายราเชนแทงน้องสาวนอนนิ่งกับพื้น และขึ้นนั่งคร่อมบีบคอน้องสาว ตนเองจึงยกมือไหว้ขอร้องให้เห็นแก่ลูกและญาติ ก่อนโทรแจ้งตำรวจ นายราเชน จึงได้วิ่งหนีไป และพบว่าตามมาอาละวาดจะทำร้ายน้องสาวที่ รพ.อีก จนตำรวจจับได้
พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ชัยพล ผู้กำกับการตำรวจภูธรห้วยยอด กล่าวว่า จากการซักถามผู้ต้องหาได้พูดมีสติดีทุกอย่าง และยอมรับว่าได้ถือมีพร้ามาที่โรงพยาบาลห้วยยอดจริง เพื่อจะดูอาการของภรรยา แต่พอมาถึงที่โรงพยาบาลก็ได้เจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ ผู้ต้องหาก็เชื่อว่าภรรยาเจ็บหนักและเสียชีวิต ผู้ต้องหาจึงใช้อาวุธมีพร้าที่ถือมาฟันตำรวจเพื่อต้องการให้ถูกยิงเพื่อจะตายตาม เพราะผู้ต้องหาถามตำรวจว่า ทำไมไม่ยิงให้ถูกหัวจะได้ตาย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระงับเหตุยิงไปแค่ยับยั้งไปที่ต้นขา และทางผู้ต้องหายังได้ปฏิเสธการรักษาทุกอย่าง คงเพราะอาจจะอยากตายตามภรรยา ส่วนข้อหาเบื้องต้นคือ ฆ่าผู้อื่น คือฆ่าภรรยา และพยาบามฆ่าเจ้าพนักงานขณะทำหน้าที่เข้าระงับเหตุ คือ สวป.ที่เข้ามาระงับเหตุ และข้อหาบุกรุกที่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 6 ต.ปากแจ่ม ขณะเข้าไปทำร้ายภรรยา ในส่วนของ รพ.จะถูกตั้งข้อหาบุกรุกด้วยหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างสอบสวน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่เปิด สำหรับการควบตัวผู้ต้องหาได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่วงนี้สภาพจิตไม่เหมือนคนปกติ เชื่อว่าผู้ต้องหากำลังจะทำร้ายตัวเองได้อีก