ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร งัด5มาตรการหยุดโควิด-19
26 มิ.ย. 2564, 18:42
ท่ามกลามการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่สูงขึ้นในจังหวัดสมุทรสาคร ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ ปัญหาเตียงไม่พอรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อ จนต้องมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ รพ.สนามแห่งที่ 9 เตรียมพร้อมรับผู้ติดเชื้อคนไทย และยังมีปัญหาความหวาดระแวงของคนในพื้นที่ ต่อจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ โดยที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่ามีการปิดบังตัวเลขผู้ติดเขื้อในจังหวัด สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังบั่นทอนความร่วมมือของประชาชน เห็นได้จากหลายพื้นที่ยังมีการรวมกลุ่มสังสรรค์ และละเลยมาตรการป้องกันโควิด-19
ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดของจังหวัดสมุทรสาคร ข้อมูลวันที่ 25 มิ.ย.64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 291 คน ในจำนวนนี้เป็นการตรวจค้นหาเชิงรุกเพียง 79 คน ส่วนที่เหลือเป็นกรณีผู้ติดเชื้อเดินทางมาตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง แม้จะมีการเรียกร้องจากประชาชนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มปริมาณการตรวจค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ เพื่อเร่งนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษา ทั้งนี้การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น ถึงขั้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ต้องประกาศพื้นที่เฝ้าระวังเข้มงวด 2 โซน ในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร และอำเภอกระทุ่มแบน เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ล่าสุด นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดมาตรการ “สมุทรสาคร (ต้อง) ชนะ” หวังควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร โดยได้กำหนดมาตรการ 5 ข้อ ประกอบด้วย
1. สร้างความตระหนักรู้ถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้ประชาชนตระหนัก แต่ไม่ตระหนก เพื่อให้ตื่นตัวในการป้องกันตนเองและคนในครอบครัว โดยใช้มาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างเข้มงวด งดการเดินทางโดยไม่จำเป็น งดงานเลี้ยงสังสรรค์ งดการทานอาหารร่วมกันเป็นกลุ่ม
2. เตรียมโรงพยาบาลสนามสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ปรับขยายโรงพยาบาลสนาม ศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 8 วัฒนาแฟคตอรี่ ให้สามารถรองรับได้ 1,000 เตียง สำหรับแรงงานต่างด้าว และให้ทุกอำเภอเตรียมโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม รวมทั้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดวางแผนด้านอัตรากำลัง และขอสนับสนุนบุคลากรจากหน่วยงานอื่น เพื่อบริหารจัดการในโรงพยาบาลสนาม อาทิเช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อสม.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
3. กำหนดมาตรการค้นหาเชิงรุกในชุมชน ให้ดำเนินงานตามมาตรการ “ขนมครก” เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อและจัดการด้านวัคซีนในชุมชนตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยเน้นหลักค้นหาผู้ป่วย และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้เร็ว ด้วยการตรวจ Rapid Antigen ในคลัสเตอร์ที่แพร่ระบาด เพื่อเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด และนำผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้าสู่ LQ โดยเร็ว เพราะจากสถิติผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะพบเชื้อ 15-17 เปอร์เซ็นต์
4. การเตรียมความพร้อมสำหรับสถานประกอบการ ขอความร่วมมือให้พนักงานงดการเดินทางไปยังสถานที่อื่น โดยให้เดินทางจากบ้านพัก สู่ที่ทำงานเท่านั้น งดการทานอาหารร่วมกัน และ งดพบปะสังสรรค์ ให้สถานประกอบการจัดเตรียม FAI/FQ เพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีพบผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการ โดยให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ประชุมชี้แจงทำความเข้าใจสถานประกอบการทุกแห่ง
5. ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชี้แจงทำความเข้าใจกับโรงพยาบาลเอกชน ให้ชะลอการรับผู้ป่วยนอกพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรองรับผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นหลัก
มาตรการ 5 ข้อ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการบรรเทาปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร แต่สิ่งสำคัญของการแก้ปัญหาคือความร่วมมือของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมามียังมีความคลางแคลงใจของพี่น้องประชาชน ต่อกรณีการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขผู้ติดเชื้อ และไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ คนในพื้นที่หลายรายยืนยันว่าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ยังมีการปิดบังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 และพยายามที่จะเรียกร้องให้มีการเปิดข้อมูลที่แท้จริง เพื่อเพิ่มความตระหนักของการระมัดระวังตัวในพื้นที่ หลังจากนี้ภาครัฐคงต้องพิสูจน์ความจริงใจ หากหวังสร้างความร่วมมือให้บรรลุมาตรการ “สมุทรสาคร (ต้อง) ชนะ”