วันนี้ ( 15 มิ.ย.64 ) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ระบุในช่วงหนึ่งว่า ผมขอเน้นย้ำว่าตน คณะรัฐมนตรี และรัฐบาล ยังมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ในการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นที่ประเทศของเรา และทั่วโลก ขณะที่ยังไม่พ้นจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาเราสามารถจัดการได้เป็นอย่างดี วางแผนเตรียมพร้อมเพื่อประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง ให้พ้นจากความยากจน ซึ่งทุกอย่างต้องทำประกอบกัน ถ้าเรามัวแต่จะสาละวนกับเรื่องโควิดอย่างเดียวคงไม่ได้ นั่นคือสำคัญสุขภาพประชาชน อย่างต่อไปเราก็ต้องเตรียมการประเทศในช่วง new normal การลงทุน และในอนาคต ซึ่งเราต้องทำคู่ขนานกันไปด้วย หยุดด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ เพียงแต่จะบริหารให้เกิดความสมดุลได้อย่างไรกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งก็ถือว่าเราทำได้ดีในระดับต้นๆของโลกอยู่เหมือนกัน จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจในเรื่องนี้ 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ผมยืนยันในเรื่องการทุจริตต่างๆเหล่านี้ ตนได้สั่งให้มีการตรวจสอบทุกเรื่อง หากมีเรื่องใดที่เสนอเข้ามายังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะต้องดำเนินการสอบสวน หลายเรื่องเกิดขึ้นมาก่อนหน้ารัฐบาลของผม แต่ได้รับการตรวจสอบจากสมัยรัฐบาลผมตามกฏหมาย ผมละเว้นใครไม่ได้อยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ยืนยันในเจตนารมย์ในเรื่องที่ได้ประกาศไปแล้วเป็นวาระแห่งชาติแล้วในเรื่องการตรวจสอบแก้ไขการทุจริต และปัญหายาเสพติด ในส่วนเรื่องยาเสพติดเราก็ให้นโยบายใหม่ว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเข้าสำรวจทุกตำบล หมู่บ้าน ชุมชน คนที่ติดยาเสพติดจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนเพื่อนำสู่การบำบัดรักษา ลดภาระพ่อแม่พี่น้อง ผมได้สั่งการไปแล้วดูว่าจะทำได้แค่ไหนอย่างไร ส่วนเรื่องการขาย จำหน่าย นายทุนต่างๆ จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดเข้มงวดตามกฎหมายทุกประการ รวมถึงการยึดทรัพย์ต่างๆ หลายอย่างรัฐบาลจำเป็นต้องทำไปในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งเรื่องการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท การปฏิรูป ซึ่งทุกคนต้องเข้าใจว่าถ้าเราทำ 1 ปีสำเร็จ บางโครงการก็ได้ผลสัมฤทธิ์ออกมาเลย บางโครงการต้องต่อเนื่อง บางโครงการใช้ถึง 5 ปี อันนี้คือการบริหารจัดการในเรื่องการจัดทำแผนงานโครงการให้สอดคล้องกันตามระยะเวลา และจะเกิดผลสัมฤทธิ์กับประชาชนมากน้อยเพียงใดนี่ตัวข้อประเมิน ข้อสำคัญต้องไม่มีการทุจริตเด็ดขาด