"ระยอง" ได้ว่าที่ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคนเดิม
10 มิ.ย. 2564, 07:53
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ห้องประชุม อบจ จ.ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระยอง โดยมีนายอนุชา เทียนชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขต 9 เป็นประธานกรรมการ นายไพโรจน์ ปิติพันธรัตน์ นายยกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง นางสาวสริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด จ.ระยอง ร่วมเป็นกรรมการ นายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวเเละกีฬาจังหวัดระยอง นางสาวเกตน์สิรี สมบูรณ์ศิลป์ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานระยอง เข้าร่วมสังเกตการณ์ พร้อมด้วย คณะกรรมการสมาคมธุรกิจการทอ่งเที่ยว จังหวัดระยอง
โดย ผู้สมัครที่ได้รับการสรรหา คือนาง สุวรรณา โดตี้ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งมาแล้ว 1 สมัย และเว้นมา1สมัย การมาสมัครครั้งนี้ ไม่มีคู่แข่ง และได้ แสดงวิสัยทัศน์ด้านการบริหารองค์กรและด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จนเป็นที่ยอมรับของคณะกรรมการ
ทั้งนี้ ประธานสภาฯ ของแต่ละจังหวัด ต้องเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัด พร้อมส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่งเสริมความเจริญด้านการทอ่งเที่ยวให้ยั่งยืน ตามพระราชบัญญัติสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และต้องรับผิดชอบในการเป็นผู้แทนของผู้ประกอบการในท้องถิ่น และผู้แทนของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในการเป็นคณะกรรมการร่วมภาครัฐ เอกชน(กรอ) เข้าไปประชุมในการพัฒนาจังหวัด ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดัน ให้เกิดการพัฒนาท่องเที่ยว เกิดความร่วมมือของภาคเอกชนกับภาครัฐ และภาคเอกชนกับภาคเอกชนด้วยกันเอง รวมถึงภาคประชาสังคม โดยประธาน สภาฯ จะมีวาระในการดำรงตำแหน่ง 2ปี
ด้านนางสุวรรณา โดตี้ กล่าวว่า การกลับมานั่ง ในตำแหน่งประธานสภาฯในครั้งนี้ มีอะไรใหม่ๆที่จะต้องทำเยอะมากเพราะสถานการณ์ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม มีการทอ่งเที่ยวแบบนิวนอมอลทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป ผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวให้ไม่เหมือนเดิม ก็ต้องมาขับเคลื่อนการทำกิจกรรม ธุรกิจท่องเที่ยวแบบใหม่ทั้งหมด เราจะดูจากจังหวัดภูเกตเป็นตัวอย่างซึ่งจะนำร่องก่อน เราจึงมีเวลาที่จะเรียนรู้ เพื่อร่วมกันผลักดันการท่องเที่ยวของระยองให้ก้าวต่อไปได้ และสิ่งหนึ่งที่เตรียมจะทำด้วยคือ อยากจับมือ 3 จังหวัดคือ ระยอง จันทบุรี และตราด ประชุมกับทางชมรมธนาคาร นำเรื่องยื่นต่อ กรอ.ขอเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ซึ่งยังไม่มีใครทำ ขอจังหวัดละหนึ่งพันล้าน โดยผ่านชมรมธนาคารผ่านไปยัง กรอ.เพื่อจะนำมาเสริมสภาพคล่อง เพราะสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา 2 ครั้ง ก็แทบไม่รอดกันแล้ว มาครั้งนี้ยิ่งลำบากมาก ดังนั้น การเสริมสภาพคล่องจึงอยากให้มาก่อน.