วันที่ 6 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นางนันท์นภัส เหมรัตนานนท์ อายุ 36 ปี หรือ ทนายความหญิง อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 1 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เดินทางพร้อมด้วยหลักฐานเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน หลังจากรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สี่ประตู สีขาว ทะเบียน กจ 8651 นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นของ นางผ่องศรี เหมรัตนทานนท์ อายุ 64 ปี แม่ของสามี ไปประสบอุบัติเหตุเมื่อประมาณปลายปี 2560 ที่ผ่าน และรถกระบะคันดังกล่าวได้ขายซากให้บริษัทประกันภัยไปแล้วหลังเกิดอุบัติเหตุ กระทั่งวันที่ 3 มิ.ย.62 ปรากฏว่าได้รับใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ของตำรวจทางหลวง ข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนด ระบุวันกระทำความผิด 12 เม.ย.62 เวลา 13.22 น.สถานที่เกิดเหตุบนถนนบูรพาวิถี กิโลเมตรที่ 42+300 ต.บางวัว อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา และถูกเปรียบเทียบปรับจำนวนเงิน 500 บาท ระบุวันครบกำหนดชำระค่าปรับวันที่ 24 พ.ค.62 โดยหากผู้ครอบครองรถกระบะไม่ดำเนินการจ่ายค่าปรับจะถูกดำเนินตามขั้นตอนกฎหมาย

 

 

นางนันท์นภัส กล่าวอีกว่า ตนมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นขบวนการกลุ่มสวมทะเบียนรถที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากรถกระบะที่ประสบอุบัติเหตุ ได้ขายซากและทำการโอนลอยให้กับบริษัทประกันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่หลังเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากบริษัทประกันประเมินค่าซ่อมรถกระบะและแจ้งว่า รถกระบะไม่สามารถซ่อมได้ เนื่องจากมีความเสียหายมาก จึงให้ขายซากแทน พร้อมกับโอนลอยให้บริษัทประกัน อย่างไรก็ตามตั้งขอสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นความตั้งใจที่จะสวมทะเบียนรถ เพราะรถกระบะของตนที่ขายซากไป และรถกระบะคันที่ระบุในใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ลักษณะ ยี่ห้อ รุ่น และสีเดียวกัน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวก็อาจมีความเป็นไปได้ว่ารถกระบะคันเก่าของตน อาจซ่อมกลับมาใช้งานเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ตนคาใจเนื่องจากทำไมชื่อผู้คอรบครองรถกระบะคันดังกล่าว ยังคงระบุชื่อ นางผ่องศรี เหมรัตนทานนท์ แม่ของสามี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงเดินทางมาพร้อมหลักฐานเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าถ้าผู้ที่ใช้รถกระบะคันดังกล่าวนำรถไปใช้ในทางผิดกฎหมาย ชื่อผู้ครอบครองรถก็จะมีความผิดไปด้วย