เปิดใจเซียนล่า "ปลิงควาย" ตากแห้งขายสู้ภัยโควิด อาชีพแปลกแต่รวย รายได้เดือนละแสน
1 มิ.ย. 2564, 09:57
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนม ในท่ามกลางสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่นี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ตลอดจนผู้ประกอบการหลากหลายอาชีพล้วนได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า บางรายขาดรายได้ถึงขั้นปิดกิจการ แต่สำหรับชาวบ้านในพื้นที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม ถือว่าเป็นอำเภอที่เป็นศูนย์รวมอาชีพแปลก อาทิ ตุ๊กแกอบแห้ง ไส้เดือนตากแห้ง เป็นต้น พวกเขาสามารถสู้วิกฤตโควิดได้เป็นอย่างดี
โดยชุมชนแห่งนี้มีอาชีพแปลกตามฤดูกาลตลอดปี ได้แก่ในช่วงฤดูหนาวจะมีการจับไส้เดือนตากแห้ง ฤดูร้อนก็จะเป็นอาชีพจับตุ๊กแกแปรรูป ส่วนฤดูฝนจะเป็นอาชีพล่าปลิงนำมาตากแห้ง ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดแพ็คส่งขายประเทศจีน เพราะมีความเชื่อมาแต่บรรพบุรุษว่าเป็นยาชูกำลังหรือยาโด๊ป สร้างรายได้หมุนเวียนในหมู่บ้านสะพัดปีละหลาย 10 ล้านบาท บางรายขยันสามารถสร้างรายได้เดือนละเกือบแสนบาท
เช่นชาวบ้านในพื้นที่บ้านดอนแดงหมู่ 4 และ หมู่ 5 ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า จ.นครพนม เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ประกอบอาชีพแปลก โดยเฉพาะฤดูฝนจะเตรียมอุปกรณ์ออกตระเวนล่าปลิงตามหนองน้ำ ต่างๆ รวมถึงทะเลสาบน้ำจืดหนองหาร สกลนคร ซึ่งเป็นแหล่งชุกชุมของปลิง ยิ่งถ้าปลิงตัวไหนดูดเลือดควายมากๆ จะตัวใหญ่อวบ บางตัวน้ำหนักตัวละ 2 -3 ขีด สามารถนำมาแปรรูปตากแห้งได้น้ำหนักดี ส่งขายให้พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อ ส่งต่อไปขายที่ประเทศจีน โดยมีราคาซื้อขายตกกิโลกรัมละ 1,000 - 1,500 บาท ส่วนออเดอร์ทางปลายทางสั่งรับไม่อั้น
ดังนั้นถึงแม้ประเทศไทยจะเจอพิษเศรษฐกิจจากโควิดระบาด แต่สำหรับชาวบ้านในพื้นที่ ยังสะกดคำว่าตกงานไม่เป็น เพราะยังมีอาชีพแปลกเสริมนอกจากการทำการเกษตร บางรายมีรายได้วันละ 4,000 – 5,000 บาท ยิ่งถ้าฟ้าฝนเป็นใจตกชุกถือเป็นโอกาสทองที่จะทำเงินสร้างรายได้เดือนละนับแสนบาท
สอบถามนายไพฑูรย์ ท้าวนาง อายุ 43 ปี ชาวบ้านดอนแดง หมู่ 5 ต.บ้านเสียว เปิดเผยถึงเส้นทางอาชีพล่าปลิงว่า สำหรับชาวบ้านดอนแดงทั้งหมู่ 4 และ หมู่ 5 ถือเป็นหนึ่งในหมู่บ้านอาชีพแปลก ที่มีอาชีพล่าปลิง ไส้เดือนตากแห้งขายส่งไปจีนแผ่นดินใหญ่ ชาวบ้านยึดอาชีพนี้มานานกว่า 10 – 20 ปี โดยจะทำอาชีพแปลกตามฤดูกาล สำหรับฤดูฝนจะเป็นโอกาสทองของชาวบ้าน ออกล่าปลิงดูดเลือดหรือชาวบ้านเรียกว่าปลิงควาย เพราะส่วนใหญ่ปลิงจะดูดเลือดควายที่ลงไปตามหนองน้ำ
ส่วนเทคนิคการหาปลิงมีอุปกรณ์อย่างเดียวคือสวิง ซึ่งจะออกไปล่าปลิงตามหนองน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ เช่น มีผักตบชวาหรือพงหญ้ารก ตามริมห้วยคลองบึง เพราะเป็นที่อาศัยของปลิงจำนวนมาก โดยเฉพาะริมหนองหาร จ.สกลนคร ถือว่าเป็นแหล่งที่ปลิงชุกชุมมากที่สุด รวมถึงพื้นที่หนองน้ำที่มีควายลงไปหากินจำนวนมาก
วิธีการจับปลิงจะใช้เท้ากวนแหวกตามพงหญ้าในริมน้ำ ซึ่งเป็นความชำนาญแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เพราะจะรู้ธรรมชาติของปลิงว่าเมื่อมีการเคลื่อนไหวในน้ำ จะคิดว่าเป็นสัตว์ที่ดูดเลือดกินได้ ทำให้จะลอยออกมา จากนั้นใช้สวิงตัก นำใส่ถังที่เตรียมไป บางวันช่วงฝนตกจะหาได้เยอะประมาณวันละ 4 -5 กิโลกรัม มีหลากหลายขนาด บางตัวหนัก 2 -3 ขีด
นายไพฑูรย์เซียนล่าปลิงเล่าต่ออีกว่า หลังจากจับปลิงมาได้จะนำมาขาย 3 รูปแบบ คือ ขายสดราคากิโลกรัมละ ประมาณ 400 – 500 บาท นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปอีก 2 แบบ คือ แบบเอาเลือดในตัวปลิง กิโลกรัมละประมาณ 1,000 บาท ส่วนแบบรีดเลือดออกจากตัวปลิง ราคาจะอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 1,500 – 2,000 บาท โดยตัวปลิงสดน้ำหนักราว 2 -3 กิโลกรัม จะได้ปลิงแห้งประมาณ 1 กิโลกรัม แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเลือกขายแบบแปรรูปตากแห้งแบบมีเลือด เพราะทำง่ายสะดวกในการขาย โดยจะนำปลิงควายตายมาน็อกด้วยยาเส้นที่ใช้สูบให้เมา จากนั้นนำไปต้มน้ำเดือด ประมาณ 10 นาที ให้สุกก่อนที่จะนำไปตากแห้งด้วยแดดธรรมชาติ 1 วัน หรือ รมควันย่างไฟ ไม่ให้เกิดความชื้น เพื่อนำไปบรรจุถุงซีน ส่งให้พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อ ปลายทางคือส่งไปประเทศจีน
“จากการสอบถามพ่อค้าที่มารับซื้อ ให้ข้อมูลว่าจะนำไปปรุงเป็นยาสมุนไพรรักษาเกี่ยวกับโรคเลือด รวมถึงสกัดน้ำมันนวดแก้ปวดเมื่อย รวมถึงเป็นยาชูกำลังตามความเชื่อของชาวจีน รับออเดอร์ไม่อั้น แต่ปีไหนฝนน้อยจะหาปลิงยาก ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ดีช่วงโควิดระบาด มีงานทำไม่ตกงาน หลังว่างเว้นทำการเกษตรทำนา บางครอบครัวมีความชำนาญ มีความสามารถ สร้างรายได้เดือนละเป็นแสนในช่วงฤดูฝน” นายไพฑูรย์กล่าวทิ้งท้าย