กาญจนบุรี วันนี้ตัวเลขผู้ป่วยติดโควิด-19 เป็น 0 ราย
31 พ.ค. 2564, 17:31
วันนี้ ( 31 พ.ค.64 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ข้อมูลวันที่ 31 พ.ค.64 ระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันนี้ เป็น 0 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 320 ราย รักษาหาย จำนวน 3 ราย รักษาหายสะสม จำนวน 265 ราย รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล จำนวน 51 ราย และเสียชีวิตสะสม จำนวน 4 ราย สำหรับผู้ป่วยที่รักษาหายกับบ้านได้ จำนวน 3 ราย คือผู้ป่วยชาว ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง รายที่ 268-269-270 โดยทั้ง 3 ราย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19
ซึ่งการที่จังหวัดกาญจนบุรีไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม และยังรักษาหายกลับบ้านได้ จำนวน 3 ราย ถือว่าเป็นข่าวดีของจังหวัดกาญจนบุรี ที่หน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ได้ระดมกำลังป้องกันและรักษาผู้ป่วยกันอย่างเต็มที่ ประชาชนชาวกาญจนบุรี ต่างก็ส่งกำลังใจให้กันอย่างล้นหลาม
สำหรับผู้ป่วยสะสม จำนวน 320 ราย เป็นชาย 131 ราย หญิง 189 ราย มีภูมิลำเนาอยู่ใน 11 อำเภอจาก 13 อำเภอ ดังนี้ อ.ทองผาภูมิ 42 ราย อ.เมือง 77 ราย อ.ท่าม่วง 58 ราย อ.ไทรโยค 2 ราย อ.พนมทวน 30 ราย อ.ท่ามะกา 55 ราย อ.ด่านมะขามเตี้ย 2 ราย อ.ห้วยกระเจา 8 ราย อ.หนองปรือ 26 ราย อ.บ่อพลอย 17 ราย อ.เลาขวัญ 2 ราย นอกจังหวัด 1 ราย
ส่วนอำเภอที่สามารถรักษาไข่แดงโดยที่ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ แม้แต่รายเดียว ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. จนถึงปัจจุบัน รวม 57 วัน มี 2 อำเภอ คือ อ.สังขละบุรี และ อ.ศรีสวัสดิ์
และผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ 31 พ.ค.64 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง ประชาสัมพันธ์สรรพคุณสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการบรรเทาอาการโรคโควิด-19 ส่งหนังสือไปยังกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ที่ กจ. 0017.2/ 9291 ลง วันที่ 31 พ.ค. 2564 เรื่องประชาสัมพันธ์สรรพคุณสมุนไพรฟ้าทลายโจรในการบรรเทาอาการโรคโควอด - 19
ด้วยประกาศดังกล่าวระบุว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งผลการคัดเลือกรายการยาในบัญชียาแห่งชาติด้านสมุนไพร ซึ่งได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร โดยการพิจารณาและคัดเลือกรายการยาที่เหมาะสม มีความจำเป็นในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพ มีความปลอดภัย มีประสิทธิผล มีสรรพคุณ หรือข้อบ่งใช้ที่ชัดเจน และมีหลักประกันคุณภาพมาตรฐาน
จากการประชุมคณะอนุกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติต้านสมุนไพรครั้งที่ 6/2564 ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ มีมติคัดเลือกรายการยาจากสมุนไพร จำนวน 2 รายการ เข้าบัญชียาหลักแห่งซาติ ประกอบด้วย
1.ยาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร ข้อบ่งใช้ บรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล มีไข้ ข้อบ่งใช้ ใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรง และ 2.ยาจากผงฟ้าทะลายโจร ข้อบ่งใช้ ใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรง
ดังนั้นศูนย์อำนวยการบริหารและประสานการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดกาญจนบุรี จึงขอประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าวมาเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีซึ่งอยู่ระหว่างรอการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้รับทราบ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีสมุนไพรฟ้าทะลายโจรไว้ประจำบ้าน เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาสุขภาพของตนเองให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย
ทั้งนี้นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรตามประกาศศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง ประชาสัมพันธ์สรรพคุณสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการบรรเทาอาการโรคโควิด-19 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ว่าฟ้าทะลายโจรใช้อย่างไรจึงจะปลอดภัยนั้นดังนี้
ไม่ควรกินยาฟ้าทะลายโจรเพื่อป้องกันโควิด -19 โดยที่ยังไม่มีอาการ เมื่อมีอาการคล้ายหวัด เช่น ไข้ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหัว ควรกินยาฟ้าทะลายโจรทันที พร้อมแยกออกมาจากคนอื่นๆ ที่อาศัยร่วมกันในบ้าน และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่น
ฟ้าทะลายโจรอาจใช้ร่วมกับยาพาราเชตามอลได้ หากกินยาฟ้าทะลายโจรแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ ฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูลยาผง กินครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน ขอแนะนำให้เช็คปริมาณยาต่อแคปซูลอีกครั้ง และกินครั้งละประมาณ 1,500 มิลลิกรัม
แคปชูลสารสกัดฟ้าทะลายโจรให้กินครั้งละ 1 หรือ 2 แคปซูล เพื่อให้ได้รับสาระสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 18-20 มิลลิกรัม/ครั้ง กินวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร โดยห้ามใช้ยาฟ้าทะลายโจรในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร รวมทั้งผู้ป่วยที่มีอาการไข้เจ็บคอเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูงหนาวสั่น
หากมีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร เช่น เกิดผื่น ลมพิษ หน้าบวม ริมฝีปากบวมหายใจลำบาก ให้หยุดใช้ยาทันทีและไม่ใช้อีก ควรระวังในผู้ที่ใช้ยาวาร์ฟารินแอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิต เพราะอาจมีฤทธิ์เสริมกันได้ ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรรสขมจัด มีฤทธิ์เย็น ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้แขนขาชา หรืออ่อนแรง ร่างกายรู้สึกหนาวเย็นภายใน เนื่องจากการเสียสมดุลธาตุ ประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดที่ กรมการแพทย์แผนไทย โทร 02-149-5678 หรือสายด่วนฟ้าทะลายโจรโทร 065-504-5678 หรือเว็บไซต์www.dtam.moph.go.th